ด้านสังคมและวัฒนธรรม
พระราชกรณียกิจในการยกระดับฐานะของราษฎรอันเนื่องมาจาก เจ้าฟ้ามงกุฎมีความสัมพันธ์ใกล้
ชิดกับราษฎรในสมัยที่ทรงผนวชอยู่ เป็นระยะเวลานานถึง 27 ปี ได้เห็นชีวิตความเแป็นอยู่ของราษฎรอย่างแท้จริง
เมื่อได้ครองราชย์แล้ว ทรงมีความเห็นว่าราษฎรของพระองค์ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก
ซึ่งเป็นหน้าที่ของพระมหากษัตริย์ที่จะต้องเอาพระทัยใส่ดูแลราษฎรให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น
ได้ทรงออกกฎหมายและแก้ไขประเพณีของบ้านเมืองหลายประการ โดยมีจุดประสงค์
ที่จะให้พระมหากษัตริย์มีความใกล้ชิดกับราษฎรยิ่งขึ้นและให้ราษฎรมีสิทธิเสรีภาพมากขึ้นกว่าเดิม
พระราชกรณียกิจที่สำคัญมีดังนี้
1. การเปลี่ยนแปลงพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา
พระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา แต่เดิมเมื่อขุนนางกล่าวคำสาบานว่าจะจงรักภัคดีต่อพระมหากษัตริย์แล้ว
ขุนนางทุกคนต้องดื่มน้ำที่แช่อาวุธต่าง ๆ ไว้เป็นเครื่องแสดงว่า ถ้าผู้ใดคิดร้ายต่อพระมหากษัตริย์
อาวุธต่าง ๆ ที่แช่อยู่ในน้ำสาบานนั้น จะลงโทษให้ถึงตาย ในสมัยรัชกาลที่
4 พระองค์เป็นผู้ดื่มน้ำแช่อาวุธเป็นพระองค์แรกก่อนขุนนางเสียอีก ซึ่งแต่เดิมพระมหากษัตริย์ไม่ต้องดื่มน้ำนี้เลย
2. โปรดฯ ให้มีการเลือกตั้งผู้พิพากษาชั้นสูง ในตำแหน่งมหาราชครูปุโรหิตาจารย์
แทนการแต่งตั้งโดยพระมหากษัตริย์ แต่เดิมผู้พิพากษาตำแหน่งมหาราชครูนั้น
พระมหากษัตริย์เป็นผู้แต่งตั้ง โดยคำแนะนำของคณะเสนาบดี ในสมัยรัชกาลที่
4 โปรดฯ ให้เจ้านายและขุนนางยศตั้งแต่ชั้นหลวงขึ้นไป เป็นผู้เลือกพระมหาราชครู
3. โปรดฯ ให้ยกเลิกประเพณีห้ามราษฎรเข้าเฝ้าในเวลาพระมหากษัตริย์เสด็จประพาส
และเลิกการยิงธนูใส่ตา ราษฎรที่เงยหน้าขึ้นมองพระมหากษัตริย์
4. โปรดฯ ให้ราษฎรเข้าเฝ้าถวายฎีกาต่อพระองค์ด้วยตนเอง ในสมัยรัชกาลที่
4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริว่า ผู้ที่จะเข้ามาตีกลองถวายฎีกาทำได้ลำบากเพราะต้องเสียเงินค่าไขกุญแจเสียก่อน
จึงโปรดฯ ให้ยกเลิกการตีกลองวินิจฉัยเภรี เสีย ราษฎรที่เดือดร้อนจะถวายฎีกา
เพื่อนำเรื่องกราบบังคมทูลให้พระมหากษัตริย์ทราบ จะต้องถูกเฆียน 30 ครั้งก่อนจึงจะถวายฎีกาได้
ในสมัยนี้ได้โปรดให้ยกเลิกประเพณีนี้เสีย ถ้าราษฎรต้องการถวายฎีกา ก็สามารถถวายฎีกาได้เลย
โดยพระองค์จะเสด็จออกที่พระที่นั่งพุทไธสวรรค์ ให้ราษฎรถวายฎีกาได้ทุกวันโกนรวม
4 ครั้ง ในหนึ่งเดือนคือในวันขึ้น 7 ค่ำ วันแรม 7 ค่ำ วันขึ้น 13 ค่ำ วันแรม
13 ค่ำ แต่ถ้าใครมีเรื่องเดือดร้อนจริง ๆ ก็ให้ถวายฎีกาวันใดก็ได้
5. ทรงประกาศห้าม การบังคับหญิงให้แต่งงานโดยเจ้าตัวไม่สมัครใจ
6. ทรงประกาศอนุญาตให้ เจ้าจอมที่ไม่ประสงค์จะอยู่รับราชการ ถวายบังคมลาออกไปได้
7. ทรงประกาศห้ามบิดามารดาและสามี ขายบุตร ภรรยาลงเป็นทาสโดยเจ้าตัวไม่สมัครใจ
8. ทรงพยายามใช้แรงงานของกรรมกรรับจ้างมากกว่าการเกณฑ์แรงงานจากราษฎร
9. โปรดฯ ให้ขุนนางสวมเสื้อในเวลาเข้าเฝ้าทุกคนและทรงอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้าเฝ้าพระองค์ได้
ในพิธีบรมราชาภิเษก นอกจากจะให้ชาวต่างชาติเข้าเฝ้าได้แล้ว ยังพระราชทานอาหารเลี้ยงแก่ชาวต่างชาติและแจกของที่ระลึกอีกด้วย
ในการเข้าเฝ้าของชาวต่างชาติสามารถแสดงความเคารพพระองค์ได้ ตามธรรมเนียมประเพณีของแต่ละประเทศ
ส่วนขุนนางไทย ยังคงใช้วิธีการเคารพแบบเดิม
|