หน้าแรก | โรงเรียนสายน้ำผึ้ง
ในพระอุปถัมภ์ ฯ |
|||||
กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม |
||||||
สารบัญ | ||||||
Ram 3 | สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว |
รัชกาลที่
3 |
1.พระราชประวัติ | |||
2.การปกครอง | |||
3.เศรษฐกิจ | |||
4.ศาสนา | |||
5.ศิลปกรรม-วัฒนธรรม | |||
6.กวีและวรรณกรรม | |||
7.ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ | |||
8.อิทธิพลของอารยธรรมตะวันตก | |||
9. ตำราฤาษีดัดตน | |||
วัดราชโอรสาราม |
วัดเฉลิมพระเกียติ |
วัดเทพธิดาราม |
วัดราชนัดดา |
ประวัติศาสตร์สมัยรัชกาลที่
3 ( พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ) ( 21/07/ 2367 02/04/2394
) |
|
โลหะปราสาท ขึ้นแทนพระเจดีย์ เพื่อให้พระสงฆ์ได้มีที่สงบเสงี่ยมสำหรับบำเพ็ญสมาธิ
ในวัดนี้ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โปรดฯ ให้ซ่อมพระอุโบสถวัดพระแก้ว ในรัชกาลก่อน ๆ ได้มีการถวายเครื่องทรงพระแก้วมรกต เฉพาะฤดูร้อนและฤดูฝน ในสมัยรัชกาลที่ 3 นี้ โปรด ฯ ให้ทำเครื่องทรงฤดูหนาวถวายอีกหนึ่งชุด จึงมีเครื่องทรงสำหรับพระแก้วมรกตครบทั้งสามฤดูในรัชกาลนี้ และยังโปรด ฯ ให้หล่อพระพุทธรูปยืนสองพระองค์ทรงเครื่องกษัตริย์ไทย ประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม องค์ที่ 1 สร้างถวายพระอัยกา ( รัชกาลที่ 1 ) ทรงถวายนามพระพุทธรูปนี้ว่า พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก องค์ที่ 2 สร้างถวายพระบรมชนกนาถ ( รัชกาลที่ 2 ) ทรงถวายนามพระพุทธรูปนี้ว่า พระพุทธเลิศหล้านภาลัย ขณะนั้นคนไทยโดยทั่วไปเรียกพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 ว่า แผ่นดินต้น และเรียกรัชกาลที่ 2 ว่าแผ่นดินกลาง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเกรงว่าประชาชนจะเรียกพระองค์ว่าแผ่นดินสุดท้าย อันเป็นอัปมงคล จึงไม่ให้เรียกแผ่นดินต้น แผ่นดินกลางอีกและทรงถวายนามให้รัชกาลที่ 1 ว่า พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 2 ว่า พระพุทธเลิศหล้านภาลัย |
|
วัดสระเกศ รัชกาลที่ 3 โปรดฯ ให้สร้างพระวิหารใหญ่เป็นที่ประดิษฐานพระอัฏฐารส ซึ่งอัญเชิญมาจากจังหวัดพิษณุโลก และโปรดฯ ให้พระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา เป็นแม่กองจัดสร้างเจดีย์ภูเขาทอง โดยมุ่งหวัง จะให้ สูงใหญ่เหมือนเจดีย์ภูเขาทองที่กรุงศรีอยุธยา ( สร้างเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 4 เรียกว่า บรมบรรพต ) แต่ชาวบ้าน นิยมเรียกว่า เจดีย์ภูเขาทอง วัดยานนาวา ( เดิมชื่อวัดคอกกระบือ ) รัชกาลที่ 3 โปรดให้สร้างเจดีย์เป็นรูปเรือสำเภาขนาดเท่าของจริงขึ้นไว้ ในวัดนี้ เพื่อให้คนรุ่นหลังจะได้รู้จักเรือสำเภาที่ใช้ในการค้ายขายสินค้ายังต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีการปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งได้โปรดให้ดำเนินการซ่อมและสร้างเพิ่มเติมอย่างมโหฬาร เมื่อปีพุทธศักราช 2379 สร้างเจดีย์เพิ่มเติมเคียงข้าง"พระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชญดาญาณ" ที่สร้าง ในสมัยรัชกาลที่ 1 ข้างละองค์ถวายแด่พระบรมชนกนาถองค์หนึ่งนามว่า พระมหาเจดีย์มุนีปัตตบริขาร และเป็นส่วนของพระองค์เององค์หนึ่งนามว่า พระมหาเจดีย์ดิลกธรรมกลกนิทาน พร้อมกับสร้างวิหารพระนอนขึ้นใหม่พร้อมด้วยพระพุทธไสยาสน์ ขนาดใหญ่ ในการปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนฯ ในครั้งนี้ ได้โปรดให้ประชุมบรรดานักปราชญ์ ราชบัณฑิตสาขาวิทยาการต่าง ๆ แล้วให้ช่วยกันจารึกลงบนแผ่นศิลาประดับไว้ในวัด อาทิ ตำราแพทย์ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย กลบท ฯลฯ โดยเหตุนี้ จึงมีคำกล่าวว่า วัดพระเชตุพนฯ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเมืองไทย |
|
2 . การชำระพระไตรปิฎก มีการส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรม ได้โปรดให้มีการชำระพระไตรปิฎกขึ้นใหม่ให้ถูกต้องครบถ้วน จนได้รับการยกย่องว่ายอดเยี่ยมกว่าฉบับก่อน ๆ และโปรดให้จ้างอาจารย์สำหรับบอกพระปริยัติธรรมแก่พระภิกษุสามเณรทุกพระอารามหลวง |
|
3. กำเนิด ธรรมยุติกนิกาย ในสมัยนี้ได้มีพระพุทธศาสนานิกายใหม่เกิดขึ้นอีกนิกาย หนึ่งเรียกว่า ธรรมยุติกนิกาย ผู้ให้กำเนิด คือสมเด็จพระน้องยาเธอเจ้าฟ้ามงกุฎซึ่งขณะนั้นกำลังผนวชเป็น วชิรญาณภิกขุ อยู่ ณ วัดสมอราย (วัดราชาธิวาส) สาเหตุการกำเนิดพระสงฆ์คณะธรรมยุติกนิกาย เนื่องจากขณะที่เจ้าฟ้ามงกุฎกำลังผนวชอยู่นั้น รัชกาลที่ 2 ได้เสด็จสรรคตลง บรรดาขุนนางผู้ใหญ่ ในสมัยนั้นเห็นสมควรให้กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ขึ้นครองราชสมบัติ เพราะบ้านเมืองกำลังอยู่ในภาวะคับขัน กำลังมีศึกสงคราม ต้องการผู้มีความรู้ความสามารถขึ้นมาปกครองบ้านเมือง ทำให้เจ้าฟ้ามงกุฎตัดสินพระทัย มุ่งศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างจริงจังต่อไป ได้พยายามศึกษาพระไตรปิฎกอย่างละเอียด แล้วเห็นว่าพระสงฆ์ของไทยในขณะนั้นประพฤติผิดแผกแปลกไปจากพระวินัยที่พระพุทธเจ้าได้สอนไว้อย่างมาก ต่อมาเจ้าฟ้ามงกุฎ ได้พบพระมอญรูปหนึ่งนามว่า พระพุทธวังโส ซึ่งเป็นพระราชาคณะมีสมณศักดิ์ว่า พระสุเมธาจารย์ อยู่ ณ วัดบวรมงคล เป็นพระผู้ชำนาญพระวินัยปิฎกและสามารถปฏิบัติได้อย่างเคร่งครัด เจ้าฟ้ามงกุฎ จึงได้นำระเบียบแบบแผนของพระพุทธวังโสมาปฏิบัติ โดยพระองค์ได้ย้ายมาประทับ ณ วัดราชาธิวาส จากนั้นได้มีบุตรหลานเจ้านาย ขุนนางต่าง ๆ เข้ามาถวายตัวเป็นศิษย์ ศึกษาและปฏิบัติตามเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดพระสงฆ์คณะใหม่อันได้ชื่อว่า ธรรมยุติกนิกาย |
วัดราชนัดดาราม |
|
วัดยานนาวา |
|
วัดราชโอรสาราม |
วัดราชาธิวาส |
|
Copyright By : Chalengsak
Chuaorrawan Sainampeung School 186 Sukhumwit 22 Sukhumwit RD Khlongtoei Khlongtoei Bangkok Thailand e-mail address : chalengsak.ch@hotmail.com Tel; 089-200-7752 mobile |
|