หน้าแรก | โรงเรียนสายน้ำผึ้ง
ในพระอุปถัมภ์ |
|||||
กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม |
||||||
สารบัญ | ||||||
โยนิโสมนสิการ |
พระพุทธเจ้า ตรัสสอนให้เรารู้จักคิด การรู้จักคิด วิเคราะห์ วิจารณ์อย่างรอบด้าน ทำให้เกิดปัญญา จนแตกฉาน เรียกว่า "โยนิโสมนสิการ" |
|
1. อุบายมนสิการ เป็น การคิดหรือพิจารณาโดยอุบาย คือ การคิดอย่างมีวิธีหรือถูกวิธี ซึ่งหมายถึง การเข้าถึงความจริง สอดคล้องกับแนวสัจจะ ซึ่งทำให้รู้สภาวลักษณะและสามัญลักษณะของสิ่งทั้งหลาย |
|
พระธรรมปิฎก(ป.อ. ปยุตโต) อธิบายความหมายของโยนิโสมนสิการ (Crltical Reflection) ไว้ดังนี้ ในระบบการศึกษาอบรม โยนิโสมนสิการ เป็นการฝึกใช้ความคิด ให้รู้จักคิดอย่างถูกวิธี คิดอย่างมีระเบียบรู้จักคิดวิเคราะห์ไม่มองเห็นสิ่งต่างๆ อย่างตื้น ผิวเผิน เป็นขั้นสำคัญในการสร้างปัญหาที่บริสุทธิ์ เป็นอิสระทำให้ทุกคนช่วยตนเองได้ และนำไปสู่จุดมุ่งหมายของพุทธธรรมอย่างถ่องแท้ |
|
ดังนั้นขอนำข้อคิดเห็นของ พระธรรมปิฎก(ป.อ. ปยุตโต) มาเสนอไว้ในที่นี้ ว่า โดยรูปศัพท์ โยนิโสมนสิการ ประกอบด้วย โยนิโส กับ มนสิการ โยนิโส มาจาก โยนิ แปลว่า เหตุ ต้นเค้า แหล่งเกิด ปัญญาอุบาย วิธี ทาง ส่วนมนสิการ แปลว่า การทำในใจ การคิด คำนึง นึกถึง ใส่ใจ พิจารณา เมื่อรวมเข้าเป็นโยนิโสมนสิการ ท่านแปลสืบทอดกันมาว่า การทำในใจโดยแยบคาย กล่าวอีกนัยหนึ่ง การทำในใจโดยแยบคายก็คือการคิดเป็น คือคิดถูกต้องตามความเป็นจริงอาศัยการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ และคิดเชื่อมโยงตีความข้อมูลเพื่อนำไปใช้ต่อไป |
|
วิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ ในทัศนะของพระธรรมปิฎก อธิบายได้ว่า วิธีโยนิโสมนสิการพอประมวลเป็นแบบใหญ่ได้ 10 วิธีดังต่อไปนี้ |
|
1. วิธีคิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัย | |
2. วิธีคิดแบบแยกแยะส่วนประกอบหรือกระจายเนื้อหา | |
3. วิธีคิดแบบสามัญลักษณ์ หรือวิธีคิดแบบรู้เท่าทันธรรมดา | |
4. วิธีคิดแบบอริยสัจ หรือ คิดแบบแก้ปัญหา | |
5. วิธีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธ์ | |
6. วิธีคิดแบบคุณโทษและทางออก | |
7. วิธีคิดแบบคุณค่าแท้-คุณค่าเทียม | |
8. วิธีคิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรม | |
9. วิธีคิดแบบเป็นอยู่ในขณะปัจจุบัน | |
10. วิธีคิดแบบวิภัชชวาทหรือคิดแบบแยกแยะประเด็น |
Copyright By : Chalengsak
Chuaorrawan Sainampeung School 186 Sukhumwit 22 Sukhumwit RD Khlongtoei Khlongtoei Bangkok Thailand e-mail address : chalengsak.ch@gmail.com Tel; 089-200-7752 mobile |
|
http://www.sainampeung.ac.th |