หน้าแรก | โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์ ฯ |
|
กลุ่มสาระสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
|
||
สารบัญ | สาระภูมิศาสตร์ |
หน่วยที่ 3 | ภูมิศาสตร์โลก World Geography | |
บทที่ 9 | ภูมิอากาศ Climate |
ความหมาย |
ปัจจัยที่มีอิธิพลต่อภูมิอากาศ |
เขตภูมิอากาศ |
การใช้สัญลักษณ์แทนชื่อภูมิอากาศ |
ประเภทภูมิอากาศ |
การแบ่งภูมิอากาศตามพืชพรรณธรรมชาติ |
ประเภทภูมิอากาศ |
ภูมิอากาศ climate หมายถึง ลักษณะอากาศของบริเวณใดบริเวณหนึ่งในระยะเวลานาน หรือ ลักษณะอากาศเฉลี่ยของภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่งในช่วงระยะเวลานาน หาได้จากการจดบันทึกสภาพอากาศประจำวัน ของอุณหภูมิ ความชื้น ความกดอากาศ แล้วนำผลมาหาค่าเฉลี่ย เพื่อสรุปหาค่าภูมิอากาศของภูมิภาคนั้น ซึ่งระยะเวลาในการจดบันทึกอาจนานมากกว่า 30 ปี นักภูมิอากาศวิทยาได้พยายามจำแนกลักษณะภูมิอากาศของโลกออกเป็นกลุ่ม ๆ และกำหนดขอบเขตพื้นที่ที่มีลักษณะภูมิอากาศนั้น ๆ โดยใช้ค่าเฉลี่ยขององค์ประกอบหลาย ๆ ชนิดเป็นตัวกำหนด อาทิ ละติจูด อุณหภูมิ หยาดน้ำฟ้า มวลอากาศ พืชพรรณธรรมชาติ เป็นต้น การแบ่งเขตภูมิอากาศของโลกโดยใช้ละติจูดเป็นเกณฑ์ |
ประเภทภูมิอากาศ |
1. แบบ A ภูมิอากาศเขตร้อน (Tropical climate) ลักษณะภูมิอากาศแบบนี้ คืออุณหภูมิเฉลี่ยของทุกเดือนจะไม่ต่ำกว่า 64.4 องศาฟาเรนไฮต์ (18 องศาเซลเซียส) มีปริมาณน้ำฝนมากและมีฝนรายปีเกินปริมาณน้ำที่ระเหยขึ้นไป ภูมิอากาศแบบนี้ไม่มีฤดูหนาว ภูมิอากาศแบบ A นี้ยังแบ่งได้อีกเป็น 3 แบบ ได้แก่ Af, Am, Aw |
1.1 ภูมิอากาศแบบป่าดิบชื้น หรือ ภูมิอากาศแบบร้อนชื้นฝนชุก (Tropical rain forest climate) Af ลักษณะอากาศชื้นตลอดเวลา มีฝนตกสม่ำเสมอและอุณหภูมิสูงตลอดปี ไม่มีเดือนใดที่ฝนต่ำกว่า 60 มิลลิเมตร ตลอดทั้งปีมีประมาณน้ำฝน มากกว่า 1,200 ม.ม./ปี |
1.2 ภูมิอากาศร้อนชื้นแถบมรสุม (Tropical monsoon climate) Am มีลักษณะอากาศชื้นแตกต่างกันตามอิทธิพลของลมมรสุม ภูมิอากาศแบบนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุม จึงทำให้มีระยะเวลาที่ฝนตกหนักและฝนตกน้อยตามอิทธิพลของลมมรสุม |
1.3 ภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้าสะวันนา (Tropical savanna climate) Aw ลักษณะอากาศชื้นกับแล้งสลับกันชัดเจน มีชื่อเฉพาะว่า สะวันนา (savanna, wet and dry climate) |
ภูมิอากาศแบบนี้แตกต่างจากภูมิอากาศแบบชื้นตลอดเวลา เพราะมีน้ำฝนตลอดปีน้อยกว่า จึงทำให้มีทั้งฤดูฝนและฤดูแล้ง |
2. แบบ B ภูมิอากาศแบบแห้งแล้ง (Dry climate) ลักษณะภูมิอากาศแบบ B คือการระเหยของน้ำจะมีมากกว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา ภูมิอากาศแบบนี้แบ่งได้เป็น 2 แบบ ได้แก่ BW, BS |
2.1 แบบทะเลทราย (Desert climate) BW อากาศแห้งแล้ง ฝนตกน้อย มีปริมาณน้ำฝนตลอดปีต่ำกว่า 250มิลลิเมตร มีสองชนิด คือทะเลทรายในเขตร้อน BWh และทะเลทรายในเขตอบอุ่น BWk |
2.2 แบบทุ่งหญ้าสเตปป์ (Steppe climate) BS ลักษณะอากาศเป็นแบบกึ่งแห้งแล้ง มีปริมาณน้ำฝนตลอดปีประมาณ 250 - 500มิลลิเมตร มีสองชนิด คือภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้ากึ่งทะเลทรายในเขตร้อน BSh และภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้ากึ่งทะเลทรายในเขตอบอุ่น BSk |
3. แบบ C ภูมิอากาศแบบอบอุ่นหรืออุณหภูมิปานกลาง (Warm temperate หรือ Mesothermal climate) ลักษณะภูมิอากาศแบบนี้ คือ เดือนที่หนาวเย็นที่สุดจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 64.4 องศาฟาเรนไฮต์ (18 องศาเซลเซียส) แต่จะไม่ต่ำกว่า 26.6 องศาฟาเรนไฮต์ (-3 องศาเซลเซียส) ภูมิอากาศแบบ C แบ่งได้เป็น 3 แบบ ได้แก่ Cf, Cw, Cs |
3.1 แบบกึ่งร้อนชื้น (Humid subtropical climate) Cw ลักษณะอากาศชื้น อุณหภูมิปานกลาง มีฝนตกมากในฤดูร้อน ส่วนในฤดูหนาวอากาศแห้งแล้งไม่มีฝนตก, (Cwa, Cwb ) (Cwa = humid subtropical winter dry) ภูมิอากาศกึ่งร้อนชื้น อากาศแห้งและฝนไม่ตกในฤดูหนาว ในฤดูร้อนอุณหภูมิค่อนข้างสูงมีฝนตก (Cwb = humid subtropical winter dry) ภูมิอากาศกึ่งร้อนชื้นฝน อากาศแห้งและฝนไม่ตกในฤดูหนาว ในฤดูร้อนอุณหภูมิค่อนข้างต่ำมีฝนตก (Cfa = Humid sobtropical without dry season , hot summer) ภูมิอากาศกึ่งร้อนชื้นไม่มีอากาศแห้งแล้งอากาศร้อนในฤดูร้อนอุณหภูมิค่อนข้างสูง พบได้ในเขตละติจูดกลาง ประมาณละติจูด 25 40 องศาทั้งซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ มักปรากฏทางชายฝั่งด้านตะวันออกของทวีป จึงเรียกภูมิอากาศชนิดนี้อีกอย่างหนึ่งว่า ภูมิอากาศแบบชายฝั่งตะวันออก (Marine east coast climate) ได้แก่ ดินแดนทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปอเมริกาใต้ ดินแดนทางภาคตะวันออกของสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ทวีปแอฟริกา บริเวณชายฝั่งตะวันออกของรัฐควีนส์แลนด์และนิวเซาท์เวลส์ ทางภาคเหนือของประเทศอินเดียถึงตอนใต้ของจีน ภาคใต้ของคาบสมุทรเกาหลีและประเทศญีปุ่น |
3.2 แบบชายฝั่งทะเลตะวันตก (Humid marine west coast climate) Cf ลักษณะอากาศชื้น มีอุณหภูมิปานกลาง สบายในฤดูร้อนและไม่หนาวเกิน ในฤดูหนาว มีฝนตกสม่ำเสมอตลอดปี ปริมาณน้ำฝนมากปานกลาง (Cfb , Cfc = Humid marine west coast without dry season warm to cool summer) ภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นสมุทรชายฝั่งตะวันตกไม่มีอากาศแห้งแล้ง อากาศอบอุ่นในฤดูร้อนอุณหภูมิปานกลาง อากาศอบอุ่นในฤดูหนาว พบได้ในเขตละติจูดกลาง ประมาณละติจูด 25 40 องศาทั้งซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้อยู่บริเวณใกล้เคียงกับภูมิอากาศชายฝั่งตะวันออกแต่จะปรากฏอยู่ด้านชายฝั่งตะวันตกของทวีปทั้งซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ ได้แก่ บริเวณชายฝั่งตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรป ทางตอนใต้ของคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย ตอนใต้ของนอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส ทางตะวันตกของเยอรมัน ในทวีปอเมริกาเหนือบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ในมลรัฐบริติชโคลัมเบีย วอชิงตันและโอเรกอน ในทวีปอเมริกาใต้ บริเวณทางตอนใต้ของประเทศชิลี ในทวีปแอฟริกาบริเวณ สาธารณะรัฐแอฟริกาใต้ |
3.3 แบบเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean climate) Cs ภูมิอากาศชื้น อุณหภูมิปานกลาง มีฝนตกในฤดูหนาว ปริมาณน้ำฝนประมาณ 750 1,000 มิลลิเมตรต่อปีในฤดูร้อน แห้งแล้ง (Csa, Csb) (Csa = mediterranean summer dry) ภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน มีฝนตกในฤดูหนาว ปริมาณน้ำฝนประมาณ 750-1,000 ม.ม./ปี อากาศร้อนจัดและแห้งแล้งในฤดูร้อนอุณหภูมิค่อนข้างสูง (Csb = mediterranean summer dry) ภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน มีฝนตกในฤดูหนาว ปริมาณน้ำฝนประมาณ 750-1,000 ม.ม./ปี อากาศร้อนจัดและแห้งแล้งในฤดูร้อนอุณหภูมิค่อนข้างต่ำ |
4. แบบ D ภูมิอากาศแบบอุณหภูมิต่ำ (Snow หรือ Microthermal climate) ลักษณะภูมิอากาศแบบนี้ คือ เดือนที่หนาวเย็นที่สุดจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 26.6 องศาฟาเรนไฮต์ (-3 องศาเซลเซียส) ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยของเดือนที่ร้อนที่สุดจะสูงกว่า 50 องศาฟาเรนไฮต์ (10 องศาเซลเซียส) แบ่งเป็น 2 แบบคือ |
4.1 แบบอุณหภูมิต่ำที่มีความชื้นตลอดปี (Humid continental hot summer climate) Df มีฝนตกทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาวอากาศชื้นตลอดปี (Dfa, Dfb, Dfc, Dfd) (Dfa = Humid continental hot summer) ภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นทวีปฝนตกเกือบตลอดทั้งปี อากาศร้อนในฤดูร้อน (Dfb = Humid continental warm summer) ภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นทวีปฝนตกเกือบตลอดทั้งปี อากาศอบอุ่นในฤดูร้อน (Dfc = Subarctic cool summer) ภูมิอากาศแบบกึ่งอารกติกหรือภูมิอากาศแบบไทกา ภูมิอากาศแบบหนาวชื้น ในฤดูร้อนอากาศเย็น (Dfd = Subarctic varycool winter without dry season) ภูมิอากาศแบบกึ่งอารกติก หรือ ภูมิอากาศแบบไทกา ภูมิอากาศแบบหนาวชื้น อากาศหนาวจัดในฤดูหนาว |
4.2 แบบอุณหภูมิต่ำที่มีความแห้งแล้งในฤดูหนาว (Humid continental mild summer climate) Dw มีฝนตกในฤดูร้อน ส่วนในฤดูหนาวอากาศเย็นและไม่มีฝนตก (Dwa, Dwb, Dwc, Dwd) (Dwa = Humid continental hot summer) ภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นทวีปฝนไม่ตกในฤดูหนาว อากาศร้อน ในฤดูร้อนอากาศร้อน (Dwb = Humid continental warm summer) ภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นทวีปฝนไม่ตกในฤดูหนาว อากาศอบอุ่นในฤดูร้อน (Dwc = Subarctic cool summer) ภูมิอากาศแบบกึ่งอารกติกหรือภูมิอากาศแบบไทกา ภูมิอากาศแบบหนาวชื้นฝนไม่ตกในฤดูหนาว ในฤดูร้อนอากาศเย็น (Dwd = Subarctic varycool winter, winter dry) ภูมิอากาศแบบกึ่งอารกติก หรือ ภูมิอากาศแบบไทกา ภูมิอากาศแบบหนาวชื้น อากาศแห้งและหนาวจัดในฤดูหนาว |
5. แบบ E ภูมิอากาศแบบขั้วโลก (Polar climate) ลักษณะภูมิอากาศแบบนี้ คือ ไม่มีเดือนใดที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่า 50 องศาฟาเรนไฮต์ (10 องศาเซลเซียส) แบ่งเป็น 2 แบบ คือ (ET, EF) 5.1 แบบทุนดรา (Tundra climate) ET มีฤดูร้อนช่วงเวลาสั้นมาก ฤดูหนาวอากาศหนาวมาก และหนาวนาน มีฝนตกในฤดูร้อนบ้างเป็นครั้งคราว 5.2 แบบเขตน้ำแข็งหรือแบบขั้วโลก (Ice cap climate) EF อากาศหนาวจัดมีน้ำแข็งปกคลุมตลอดปี |
6. แบบ H ภูมิอากาศแบบที่สูง (Highland climate) เป็นภูมิอากาศในแนวตั้ง คือ ลักษณะภูมิอากาศที่ปรากฏตั้งแต่ที่ราบไปสู่ที่สูง หรือยอดเขา ภูมิอากาศแบบนี้ทั้งอุณหภูมิ ปริมาณฝน และพืชพรรณธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปตามระดับความสูงของพื้นที่และที่ตั้งตามละติจูด |
Copyright By : Chalengsak
Chuaorrawan Sainampeung School 186 Sukhumwit 22 Sukhumwit RD Khlongtoei Khlongtoei Bangkok Thailand e-mail address : chalengsak.ch@hotmail.com Tel; 089-200-7752 mobile |
|
http://www.sainampeung.ac.th |