หน้าแรก | โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์ ฯ |
|
กลุ่มสาระสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
|
||
สารบัญ | สาระภูมิศาสตร์ |
หน่วยที่ 3 | ภูมิศาสตร์โลก World Geography | |
บทที่ 9 | ภูมิอากาศ Climate |
ความหมาย | ||||||||
ปัจจัยที่มีอิธิพลต่อภูมิอากาศ | ||||||||
เขตภูมิอากาศ | ||||||||
การใช้สัญลักษณ์แทนชื่อภูมิอากาศ | ||||||||
ประเภทภูมิอากาศ | ||||||||
การแบ่งภูมิอากาศตามพืชพรรณธรรมชาติ | ||||||||
บริเวณภูมิภาคและทวีปต่าง ๆ ของโลกมีลักษณะภูมิอากาศแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหรือสาเหตุดังต่อไปนี้ | ||||||||
1. ที่ตั้งตามตำแหน่งละติจูด | ||||||||
เนื่องจากโลกเป็นทรงกลม แสงอาทิตย์จึงตกกระทบพื้นโลกเป็นมุมไม่เท่ากัน ดังนั้นในเวลาเที่ยงวันพื้นผิวบริเวณศูนย์สูตรได้รับรังสีจากแสงอาทิตย์เป็นมุมฉาก แต่พื้นผิวบริเวณขั้วโลกได้รับรังสีจากแสงอาทิตย์เป็นมุมเอียง ส่งผลให้เขตศูนย์สูตรมีอุณหภูมิสูงกว่าเขตขั้วโลก ประกอบกับรังสีที่ตกกระทบพื้นโลกเป็นมุมเอียง เดินทางผ่านความหนาชั้นบรรยากาศเป็นระยะทางมากกว่า รังสีที่ตกกระทบเป็นมุมฉาก ความเข้มของแสงจึงถูกบรรยากาศกรองให้ลดน้อยลง ยังผลให้อุณหภูมิลดต่ำลงไปอีก ดังนั้นบริเวณที่ตั้งอยู่ในเขตละติจูดต่ำ(บริเวณที่ใกล้เส้นศูนย์สูตร) อุณหภูมิจะสูง บริเวณที่ตั้งอยู่ในเขตละติจูดสูงอุณหภูมิจะต่ำ แบ่งออกเป็น 3 เขต | ||||||||
- เขตละติจูดต่ำ ในซีกโลกเหนือ ตั้งแต่เส้นศูนย์สูตรถึงเส้นทรอปิกออฟแคนเซอร์ เป็นเขตภูมิอากาศร้อน ในซีกโลกใต้ ตั้งแต่เส้นศูนย์สูตรถึงเส้นทรอปิกออฟแคบริคอร์น เป็นเขตภูมิอากาศร้อน |
||||||||
- เขตละติจูดกลาง ในซีกโลกเหนือ ตั้งแต่เส้นทรอปิกออฟแคนเซอร์ ถึง อาร์กติกเซอร์เคิล เป็นเขตภูมิอากาศอบอุ่น ในซีกโลกใต้ ตั้งแต่เส้นทรอปิกออฟแคบริคอร์น ถึง แอนตาร์กติกเซอร์เคิล เป็นเขตภูมิอากาศอบอุ่น |
||||||||
- เขตละติจูดสูง | ||||||||
ในซีกโลกเหนือ ตั้งแต่เส้นอาร์กติกเซอร์เคิล ถึง ขั้วโลกเหนือ เป็นเขตภูมิอากาศหนาว ในซีกโลกใต้ ตั้งแต่เส้นแอนตาร์กติกเซอร์เคิล ถึง ขั้วโลกใต้ เป็นเขตภูมิอากาศหนาว |
||||||||
2. ระยะห่างจากทะเล หรือความใกล้ไกลทะเล | ||||||||
บริเวณที่อยู่ห่างไกลจากทะเลมาก ๆ จะไม่ได้รับอิทธิพลความชื้นจากทะเลทำให้มีภูมิอากาศแห้งแล้งมีปริมาณฝนน้อย บริเวณที่อยู่ใกล้จากทะเล จะได้รับอิทธิพล ความชื้นจากทะเลทำให้มีภูมิอากาศชื้นมีฝนตก แต่ฝนจะตกหรือไม่นั้นยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกที่ทำให้ฝนตก ดินแดนที่อยู่ใกล้ทะเล จะได้รับความชื้นจากจากทะเล ทำให้มีอากาศเย็นสบายไม่ร้อนจัด เพราะอิทธิพลของภาคพื้นสมุทร ส่วนดินแดนที่อยู่ไกลทะเลมากๆ เวลาอากาศร้อนจะร้อนจัด เวลาอากาศหนาวจะหนาวจัดเป็นเพราะอิทธิพลของภาคพื้นทวีป | ||||||||
3. การวางตัวของเทือกเขา | ||||||||
ถ้าเทือกเขาตั้งขวางทางลม เมื่อลมพัดพาความชื้นมา ด้านหน้าเขาหรือด้านรับลม ฝนจะตกหนัก ทำให้เกิดความชุ่มชื้น ส่วนด้านหลังเขา ฝนจะตกน้อย ทำให้เกิดความแห้งแล้ง | ||||||||
4. ความสูงของพื้นที่ Elevation | ||||||||
นักวิทยาศาสตร์ได้สำรวจข้อมูลจากอุณหภูมิของอากาศที่ระดับความสูงต่างกันแล้วสรุปว่า อัตราการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิมีค่าประมาณ 5.5 องศาเซลเซียสต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร อากาศมีคุณสมบัติเป็นตัวนำความร้อน Conduction ได้ไม่ดี เนื่องจากอากาศมีความโปร่งใส และมีความหนาแน่นต่ำ พื้นดินจึงดูดกลืนพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ดีกว่า อากาศถ่ายเทความร้อนจากพื้นดิน ด้วยการพาความร้อน Convection ไปตามการเคลื่อนที่ของอากาศ ในสภาพทั่วไปเราจะพบว่ายิ่งสูงขึ้นไป อุณหภูมิของอากาศจะลดต่ำลงด้วยอัตรา 5.5-6.5 องศาเซลเซียส ต่อ 1 กิโลเมตร หรือ อุณหภูมิ จะลดลงประมาณ 1 องศาเซลเซียส ทุกๆ 180 เมตร | ||||||||
5. ลมประจำที่พัดผ่าน | ||||||||
ลมประจำปี Prevailing Wind | ||||||||
1. ในเขตละติจูดต่ำ จะได้รับอิทธิพลของลมสินค้า | ||||||||
2. ในเขตละติจูดกลางจะได้รับอิทธิพลของลมตะวันตก | ||||||||
3. ในเขตละติจูดสูง จะได้รับอิทธิพลของลมขั้วโลก | ||||||||
ลม wind คืออากาศที่เคลื่อนที่ขนานกับพื้นผิวโลก อันเนื่องมาจากความแตกต่างของพื้นผิวโลกได้รับความร้อนและคลายความร้อน จากดวงอาทิตย์ ต่างกัน ทำให้เกิดความกดอากาศไม่เท่ากันบนพื้นผิวโลก บริเวณที่มีมวลอากาศน้อยเรียกว่า หย่อมความกดอากาศต่ำ Low pressure บริเวณที่มีมวลอากาศมากเรียกว่า หย่อมความกดอากาศสูง High pressure เมื่ออากาศบนพื้นผิวโลกมีมวลอากาศไม่เท่ากันจึงเกิดการเคลื่อนที่ของอากาศจากหย่อมความกดอากาศสูง High pressure ไปสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ Low pressure | ||||||||
โดยทั่วไปบนพื้นผิวโลกมักจะเกิดหย่อมความกดอากาศตามละติจูด 7 บริเวณดังนี้ 1. บริเวณศูนย์สูตร ประมาณละติจูด 5 องศาเหนือ ถึง 5 องศาใต้ มักจะเกิดหย่อมความกดอากาศต่ำ Low pressure 2. บริเวณละติจูด 30-35 องศาเหนือ จะเกิดหย่อมความกดอากาศสูง High pressure 3. บริเวณละติจูด 30-35 องศาใต้ จะเกิดหย่อมความกดอากาศสูง High pressure 4. บริเวณละติจูด 60-65 องศาเหนือ จะเกิดหย่อมความกดอากาศต่ำ Low pressure 5. บริเวณละติจูด 60-65 องศาใต้ ถึง จะเกิดหย่อมความกดอากาศต่ำ Low pressure 6. บริเวณละติจูด 85-90 องศาเหนือ จะเกิดหย่อมความกดอากาศสูง High pressure 7. บริเวณละติจูด 85-90 องศาใต้ จะเกิดหย่อมความกดอากาศสูง High pressure |
||||||||
จากความแตกต่างของความกดอากาศทั้ง 7 บริเวณทั่วโลกทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของอากาศอยู่เป็นประจำตลอดทั้งปีเราจึงเรียกลมประจำปี ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 ประเภท ได้แก่ 1. ลมสินค้าตะวันออกเฉียงเหนือ คือลมที่พัดจากหย่อมความกดอากาศสูง บริเวณละติจูด 30-35 องศาเหนือเข้าหาหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเส้นศูนย์สูตร 2. ลมสินค้าตะวันออกเฉียงใต้ คือลมที่พัดจากหย่อมความกดอากาศสูง บริเวณละติจูด 30-35 องศาใต้เข้าหาหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเส้นศูนย์สูตร 3. ลมตะวันตกเฉียงเหนือคือ ลมที่พัดจากหย่อมความกดอากาศสูงบริเวณละติจูด 30-35 องศาใต้ เข้าหาหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณละติจูด 60-65 องศาใต้ 4. ลมตะวันตกเฉียงใต้คือ ลมที่พัดจากหย่อมความกดอากาศสูงบริเวณละติจูด 30-35 องศาเหนือ เข้าหาหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณละติจูด 60-65 องศาเหนือ 5. ลมขั้วโลกตะวันออกเฉียงเหนือคือ ลมที่พัดจากหย่อมความกดอากาศสูงบริเวณละติจูด 85-90 องศาเหนือ เข้าหาหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณละติจูด 60-65 องศาเหนือ 6. ลมขั้วโลกตะวันออกเฉียงใต้คือ ลมที่พัดจากหย่อมความกดอากาศสูงบริเวณละติจูด 85-90 องศาใต้ เข้าหาหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณละติจูด 60-65 องศาใต้ |
||||||||
ลมประจำถิ่น | ||||||||
พายุหมุน | ||||||||
พายุหมุน Cyclonic Storm หมายถึง พายุที่มีขนาดใหญ่ เป็นลมที่พัดหมุนเวียนเป็นก้นหอยเข้าสู่ศูนย์กลางพายุ บริเวณศูนย์กลางของพายุเรียกว่า "ตาพายุ" พายุหมุน เริ่มก่อตัวและมีกำลังแรงขึ้นจากบริเวณศูนย์กลางความกดอากาศต่ำ ลมพัดเวียนเข้าหาศูนย์กลาง บริเวณซีกโลกเหนือลมจะพัดเวียนเข้าหาศูนย์กลาง ในลักษณะทวนเข็มนาฬิกา ส่วนบริเวณซีกโลกใต้ ลมจะพัดเวียนเข้าหาศูนย์กลางในลักษณะตามเข็มนาฬิกา | ||||||||
|
||||||||
1. พายุดีเปรสชัน Depression มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางไม่ถึง 34 นอต (น้อยกว่า63 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) 2. พายุโซนร้อน Tropical Storm มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางตั้งแต่ 34 - 64 นอต (ระหว่าง 63 -118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) 3. พายุไต้ฝุ่น Typhoon มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางตั้งแต่ 64 นอต ขึ้นไป (มากกว่า118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) |
||||||||
6. กระแสน้ำในมหาสมุทร | ||||||||
กระแสน้ำในมหาสมุทร มี 2 ประเภทคือ กระแสน้ำเย็น และ กระแสน้ำอุ่น บริเวณที่กระแสน้ำอุ่นไหลผ่าน จะทำให้ อากาศอบอุ่นและชุ่มชื้น ส่วนบริเวณที่กระแสน้ำเย็นไหลผ่าน | ||||||||
|
||||||||
|
Copyright By : Chalengsak
Chuaorrawan Sainampeung School 186 Sukhumwit 22 Sukhumwit RD Khlongtoei Khlongtoei Bangkok Thailand e-mail address : chalengsak.ch@hotmail.com Tel; 089-200-7752 mobile |
|
http://www.sainampeung.ac.th |