สมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
พ.ศ. 2310 2325
ศาสนา
การฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในสมัยกรุงธนบุรีในระยะเวลา 15 ปี มีดังนี้
1. การจัดระเบียบสังฆมณฑล
2. การรวบรวมพระไตรปิฎก
3. การบูรณะและปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม
4. การอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานในราชอาณาจักร
การจัดระเบียบสังฆมณฑล
หลังจากการสถาปนาราชธานีแล้ว
ในปี พ.ศ. 2311ก็โปรดให้จัดระเบียบสังฆมณฑล โดยเสาะหาพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่
นิมนต์มาประชุมกัน ณ วัดบางหว้าใหญ่ (วัดระฆังโฆสิตาราม) เพื่อเลือกตั้งพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ที่มีพรรษาและทรงคุณธรรม
แล้วแต่งตั้งเป็นสมเด็จพระสังฆราช ประมุขฝ่ายสงฆ์ เพื่อจัดการปกครองในสังฆมณฑลต่อไป
และโปรดแต่งตั้งพระเถระใหญ่น้อยตามลำดับสมณศักดิ์ แล้วนิมนต์ไปจำพรรษาตามวัดวาอารามต่าง
ๆ ในกรุงธนบุรี ทำหน้าที่บังคับบัญชาพระสงฆ์และสามเณร ในวัดฝ่ายคันถธุระและวิปัสสนาธุระ
การรวบรวมพระไตรปิฎก
หลังจากกรุงศรีอยุธยาแตกในคราวเสียกรุงครั้งที่
2 เมื่อ 7 เมษายน 2310 วัดวาอารามบ้านเมืองถูกพม่าเผา พระคัมภีร์ พระไตรปิฎก
และตำราต่าง ๆ ก็ถูกเผา และสูญหายเป็นอันมาก
หลังจากสมเด็จพระเจ้าตากสิน ได้สถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีแล้ว
ก็โปรดให้สืบเสาะแสวงหาพระไตรปิฎกตามหัวเมืองต่าง ๆ แล้วนำมาคัดลอกไว้เพื่อชำระพระไตรปิฎกต่อไป
อาทิ ในครั้งเมื่อยกทัพไปปราบชุมนุมนครศรีธรรมราช ในปี พ.ศ. 2312 เมื่อเสร็จศึกแล้วก็โปรดให้ยืมพระไตรปิฎกจากนครศรีธรรมราชบรรทุกลงเรือเพื่อนำมาคัดลอกเก็บไว้
ณ กรุงธนบุรี และในครั้งที่ยกทัพไปปราบชุมนุมเจ้าพระฝาง ในปี พ.ศ.
2313 ก็โปรดให้นำพระไตรปิฎกจากวัดมหาธาตุ เมืองฝาง อุตรดิตถ์ เพื่อใช้ในการสอบทานกับต้นฉบับที่ได้มาจากนครศรีธรรมราช
แต่การรวบรวมพระไตรปิฎกยังไม่เรียบร้อยก็สิ้นรัชกาลเสียก่อน
การบูรณะและปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม
โปรดให้บรรดาขุนนางทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน ราษฎร
ร่วมกันสร้างพระอุโบสถ พระวิหาร เจดีย์ กุฏิ รวมหลายพระอาราม
หมดพระราชทรัพย์เป็นจำนวนมาก วัดที่โปรดให้บูรณะปฏิสังขรณ์มีดังนี้
วัดบางยี่เรือใต้(วัดอินทาราม) วัดบางหว้าใหญ่(วัดระฆังโฆสิตาราม) วัดแจ้ง(วัดอรุณราชวราราม) วัดบางยี่เรือเหนือ(วัดราชคฤห์)
วัดหงส์อาวาส(วัดหงส์รัตนาราม)
วัดที่สำคัญในรัชกาลนี้คือ
วัดอินทาราม(วัดบางยี่เรือใต้หรือวัดบางยี่เรือนอก)
สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงเอาใจใส่ ทั่วพระอาราม และโปรดให้ยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษซึ่งเป็นวัดฝ่ายวิปัสสนาธุระ
วัดหงส์อาวาส บูรณะแล้วยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกฝ่ายการศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม
วัดแจ้ง เป็นวัดในเขตพุทธาวาส
เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตพระราชฐาน จึงไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา เมื่อครั้งเสร็จศึกเวียงจันทน์
ได้อัญเชิญ พระแก้วมรกต มาประดิษฐาน
ณ วัดแจ้งแห่งนี้ วัดนี้จึงเรียกว่าวัดพระแก้วในสมัยกรุงธนบุรี
การอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานในราชอาณาจักร
พระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของไทย
เดิมตามประวัติการพบครั้งแรก ณ เมืองเชียงราย ในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสิน
โปรดให้ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกยกทัพไปตีเวียงจันทน์ ได้ชัยชนะแล้วได้อัญเชิญพระแก้วมรกตและพระบาง
มายังกรุงธนบุรี โดยประดิษฐาน ณ วัดแจ้ง โดยมีพระราชดำริจะสร้างปราสาทถวายแต่สิ้นรัชกาลเสียก่อน