หน้าแรก
โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์
กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
สารบัญ
 
สมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
  1. รัชกาลที่ 7 มีพระนามเดิมว่า  สมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดช   เป็นโอรสของ  รัชกาลที่  5
    กับ  สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ
  2. รัชกาลที่ 7 ทรงมีพระปรมาภิไธยย่อว่า  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปกพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
  3. สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนสุโขทัยธรรมราชา ทรงผนวช         ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม             จำพรรษา
    ณ  วัดบวรนิเวศวิหาร   หลังจากทรงลาผนวชแล้วทรงอภิเษกสมรสกับหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณีสวัสดิวัฒน์
  4. รัชกาลที่ 7 ขึ้นครองราชย์เมื่อ   25 พฤศจิกายน   2468    ทรงสละราชสมบัติเมื่อ     2  มีนาคม    2477
    รวมระยะเวลาที่ครองราชย์นาน    10   ปี แล้วเสด็จสวรรคตเมื่อ       30 พฤษภาคม    พ.ศ.   2484
    ณ  ประเทศ อังกฤษ   รวมพระชนมายุ     48   พรรษา
  5. การปกครองในสมัยรัชกาลที่ 7 ตอนต้นรัชกาลได้ตั้งสภาแผ่นดิน  2  สภาประกอบด้วย
    5.1 อภิรัฐมนตรีสภา มีหน้าที่      เป็นสภาที่ปรึกษาราชการในพระองค์ทั้งปวง
    5.2 องคมนตรีสภา   มีหน้าที่      ประชุมปรึกษาหารือข้าราชการตามแต่จะทรงโปรดเกล้าฯเช่น
    การพิจารณาร่างกฎหมายการตราพระราชบัญญัติ
  6. หน่วยงานที่รัชกาลที่ 7 จัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ประสานงานในราชการของกระทรวงฝ่ายทหารและพลเรือนคือ           สภาป้องกันพระราชอาณาจักร
  7. สมาชิกอภิรัฐมนตรีสภาประกอบด้วย ประกอบด้วยพรพบรมวงศานุวงศ์จำนวน  5 คนคือ
    7.1 สมเด็จพระปิตุลาบรมพงศาภิมุขเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช
    7.2 สมเด็จพระพี่ยาเธอเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิตประชานาท
    7.3 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระนริศรานุวัดติวงศ์
    7.4 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
    7.5 พระเจ้าพี่ยาเธอกรมพระจันทบุรีนฤนาท
  8. สมาชิกอภิรัฐมนตรีสภา มีกำหนดประชุม สัปดาห์ละ  ครั้ง โดยจะประชุมในวัน          ศุกร์
  9. รัชกาลที่ 7 ทรงตั้งคณะอภิรัฐมนตรีสภาขึ้นเมื่อ วันที่   28   เดือน    พฤศจิกายน                 พ.ศ. 2468
  10. สมาชิกอภิรัฐมนตรีสภา  มีการประชุมครั้งแรกเมื่อ วันที่  29  เดือน     พฤศจิกายน     พ.ศ. 2468 ณ   พระที่นั่งบรมพิมาน
  11. คณะผู้ก่อการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เรียกว่า    คณะราษฎร์
  12. คณะราษฎร์  ประกอบด้วย           ทหารบก  ทหารเรือ  พลเรือน
  13. ขณะที่ คณะราษฎร์ ดำเนินการปฏิวัติอยู่นั้น   พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว    เสด็จแปรพระราฐาน
    ประทับอยู่ที่ พระราชวังไกลกังวล  อำเภอ หัวหิน   จังหวัด  ประจวบคีรีขันธ์
  14. หัวหน้าคณะราษฎร์ที่ทำการปฏิวัติ คือ     พระยาพหลพลพยุหเสนา  (  พจน์พหลโยธิน  )
  15. คณะบุคคลสำคัญของคณะราษฎร์ฝ่ายทหารบก ได้แก่
    15.1 พันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา  ( พจน์พหลโยธิน )
    15.2 พันเอกพระยาทรงสุรเดช  ( เทพพันธุมเสน )
    15.3 พันเอกพระยาฤทธิอัคเนย์  ( สละเอมะศิริ )
    15.4 พันโทพระประศาสน์พิทยายุธ ( นายวันชูถิ่น )
    15.5 หลวงพิบูลสงคราม  ( แปลกขีตตะสังคะ )
  16. คณะบุคคลสำคัญของคณะราษฎร์ฝ่ายทหารเรือ ได้แก่
    16.1 นาวาตรีหลวงสินธุ์สงครามชัย ( สินธุ์กมลนาวิน )
    16.2 นาวาตรีหลวงศุภชลาศัย ( บุงศุภชลาศัย )
    16.3 เรือเอกหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ( ถวัลย์ธารีสวัสดิ์ )
  17. คณะบุคคลสำคัญของคณะราษฎร์ฝ่านพลเรือนคือ 
    17.1 หลวงประดิษฐ์มนูธรรม  ( ปรีดีพนมยงค์ )
    17.2 นายควงอภัยวงศ์
    17.3 นายดิเรกชัยนาม
    17.4 นายประยูรภมรมนตรี
  18. ผู้วางแผนยึดอำนาจการปกครองเมื่อ 24 มิถุนายน  2475 คือ พันเอกพระยาทรงสุรเดช (เทพพันธุมเสน )
  19. ผู้ที่ถือว่าเป็นมันสมองของคณะราษฎร์คือ        หลวงประดิษฐ์มนูธรรม  ( นายปรีดีพนมยงค์ )
  20. พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงที่ถูกคณะราษฎร์ ควบคุมไว้เป็นตัวประกันสำหรับต่อรองกับรัชกาลที่ 7 คือ           สมเด็จพระพี่ยาเธอเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิตประชานาท
  21. คณะราษฎร์ได้ควบคุมพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ชั้นสูงไว้  พระที่นั่งอนันตสมาคม
  22. เมื่อคณะราษฎร์ ปฏิวัติผู้ที่นำข่าวไปแจ้งรัชกาลที่ 7 คือ            กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน
  23. คณะราษฎร์ ได้ตั้งศูนย์บัญชาการการปฏิวัติอยู่  ณ                 พระที่นั่งอนันตสมาคม
  24. หลังจากที่คณะราษฎร์ ทำการยึดอำนาจเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้วได้  ผู้ที่ถือหนังสือไปแจ้งให้รัชกาลที่ 7 กลับมาปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตยคือ  นาวาตรีหลวงศุภชลาศัย ( บุงศุภชลาศัย )
  25. รัชกาลที่ 7 ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรกให้กับปวงชนชาวไทย  ณ   พระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อ   27 เดือน   มิถุนายน  2475
  26. รัชกาลที่ 7 ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับถาวร        ให้เมื่อ   10  เดือน ธันวาคม  2475
  27. นายกรัฐมนตรีคนแรกของไทยคือ  พระยามโยปกรณ์นิติธาดา  ( นายก้อนหุตสิงห์ )
  28. เมื่อคณะราษฎร์ ทำการปฏิวัติเรียบร้อยแล้วได้จัดตั้งรัฐสภา โดยมี  เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี  ( สนั่นเทพหัสดินณอยุธยา )         เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร์
    และประกาศจัดตั้งรัฐบาลโดยมี พระยามโนปกรณ์นิติธาด ( นายก้อนหุตสิงห์ )   เป็นประธานคณะกรรมการราษฎร์
  29. “คณะกรรมการราษฎร” ซึ่งระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ ฉบับแรกของไทยเทียบได้กับ  นายกรัฐมนตรี ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
  30. สมาชิกประเภท 2 ในรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2475 หมายถึง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ที่มาจากการแต่งตั้งโดยพระมหากษััตริิย์
  31. หลักในการดำเนินการบริหารประเทศของคณะราษฎร์ เรียกว่า  หลัก  6  ประการ
  32. หลักในการดำเนินการบริหารประเทศของคณะราษฎร์  6  ประการ ประกอบด้วย
    32.1 หลักเอกราช
    32.2
    หลักความปลอดภัย
    32.3
    หลักเศรษฐกิจ
    32.4
    หลักเสมอภาพ
    32.5
    หลักเสรีภาพ
    32.6
    หลักการศึกษา
  33.  นโยบายการบริหารงานของคณะราษฎร์ที่จะพัฒนาประเทศมี  6  ประการคือ
    33.1 หลักเอกราช คือ  จะรักษาความเป็นเอกราชทั้งหลายเช่นเอกราชทางการเมืองทางการศาล
    ทางเศรษฐกิจของประเทศไว้ให้มั่นคง

    33.2 หลักความปลอดภัย คือ จะรักษาความปลอดภัยภายในประเทศจะสร้างความสามัคคีในชาติ
    33.3 หลักเศรษฐกิจ คือ    จะต้องบำรุงความสุขสมบูรณ์ของราษฎรในทางเศรษฐกิจโดยรัฐบาลจะจัดให้
    ทุกคนมีงานทำไม่ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก

    33.4 หลักเสมอภาพ คือจะต้องให้ราษฎรมีสิทธิเสมอภาคกัน
    33.5 หลักเสรีภาพ คือ   จะต้องให้ราษฎรมีเสรีภาพมีความเป็นอิสระซึ่งจะต้องไม่ขัดกับหลักข้างต้น
    33.6 หลักการศึกษา คือ  จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร
  34. สิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งภายในคณะราษฎร์ หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 คือ เค้าโครงเศรษฐกิจ ( สมุดปกเหลือง ) ของหลวงประดิษฐ์มนูธรรม
  35. หลังการปฏิวัติ 2475  ได้เกิดรอยร้าวในรัฐสภาและรัฐบาล อันเนื่องมาจาก     เค้าโครงเศรษฐกิจ      หรือ
    ที่เรียกว่า     “สมุดปกเหลือง”  ซึ่งร่างขึ้นโดย         หลวงประดิษฐ์มนูธรรม  ( ปรีดีพนมยงค์ )
  36. กลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยกับเค้าโครงเศรษฐกิจ  ( สมุดปกเหลือง )    โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเค้าโครงเศรษฐกิจ
    ฉบับนี้มีลักษณะเป็น   สังคมนิยมโซเชียลลิสต์อย่างแรงหรือคอมมิวนิสต์
  37. เค้าโครงเศรษฐกิจที่หลวงประดิษฐ์มนูธรรม ได้ร่างขึ้น รัชกาลที่ 7 ได้วิจารณ์ไว้ใน   “สมุดปกขาว”
  38. เมื่อพระยาพหลพลพยุหเสนา ทำการปฏิวัติล้มรัฐบาลของ พระยามโนปกรณ์นิติธาดา ได้เกิดกบฏบวรเดช
    ซึ่งคณะกบฏ ได้เรียกตนเองว่า  “คณะกู้บ้านเมือง”    โดยมี พลเอกพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าบวรเดช  เป็นหัวหน้า
  39. หัวหน้าคณะกู้บ้านเมืองเมื่อทำการไม่สำเร็จได้หลบหนีไปอยู่ที่        อินโดจีน
  40. เมื่อพระยาพหลพลพยุหเสนา ปราบกบฏบวรเดชเรียบร้อยแล้ว รัชกาลที่ 7 ได้เสด็จประพาสต่างประเทศ
    โดยการเสด็จในครั้งนี้เพื่อที่จะรักษา       พระเนตร   ณ ประเทศ          อังกฤษ
  41. การเสด็จไปต่างประเทศของรัชกาลที่ 7 เมื่อ 12 มกราคม 2476 ( 2477 )   ได้แต่งตั้งให้ 
    เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
  42. พระไตรปิฎกที่จัดพิมพ์เป็นอักษรไทย จนจบบริบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 7 เรียกว่า พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฏ
  43. สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 7 คือ     สะพานพุทธยอดฟ้า
    หรือสะพานปฐมบรมราชานุสรน์
Copyright By Chalengsak Chuaorrawan Sainampeung School
186 Sukhumwit 22 Sukhumwit RD Khongteay Khongteay Bangkok Thailand
e-mail address : chalengsak.ch@hotmail.com
Tel; 089-200-7752 mobile
                                                                 
http://www.sainampeung.ac.th