หน้าแรก
โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์
กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
สารบัญ
 
สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
  1. รัชกาลที่ 6 มีพระนามเดิมว่า   เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ   เป็นโอรสของ รัชกาลที่  5    
    กับ   สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ   ประสูติเมื่อ   เดือน   มกราคม     2423
    ขึ้นครองราชย์เมื่อ  23 ตุลาคม  2453 เสด็จสวรรคตเมื่อ  25 เดือน      พฤศจิกายน    2468
    รวมพระชนมายุ  45  พรรษา  รวมระยะเวลาที่ครองราชย์นาน   16   ปี
  2. ในสมัยรัชกาลที่ 6 ด้านการปกครองส่วนกลาง โปรดให้ตั้งกระทรวง      ทหารเรือ    และกระทรวงมุรธาธร  ให้เปลี่ยนชื่อกระทรวงโยธาธิการ เป็น    คมนาคม  
    และให้รวมกระทรวงนครบาลเข้ากับกระทรวง   มหาดไทย 
  3. ในสมัยรัชกาลที่ 6 มีการปรับปรุงระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาค  โดยให้รวมมณฑลที่อยู่ติดกันเป็นภาค
    แต่ละภาคให้มี    อุปราช     มีอำนาจเหนือสมุหเทศาภิบาลและเปลียนชื่อเมืองเป็น   จังหวัด  
  4. กบฏ ร.ศ. 130 ( พ.ศ. 2454 ) ประกอบด้วย   ทหารเรือ     ทหารบก      พลเรือน 
  5. หัวหน้ากบฏ ร.ศ. 130 คือ    ร้อยเอกขุนทวยหาญพิทักษ์      (  นายแพทย์เหล็ง   ศรีจันทร์  )
  6. กบฏ ร.ศ. 130 ทำงานไม่สำเร็จเพราะ  ร้อยเอกสินาดโยธารักษ์  (  ยุทธ หรือ แต้ม   คงอยู่ )   สมาชิกของ
         คณะกบฏ  ร.ศ. 130  นำข่าวการปฏิวัติมาบอกรัฐบาล  
  7. รัชกาลที่ 6 ทรงจัดตั้ง “ดุสิตธานี” ขึ้นเพื่อ .        ทดลองการปกครองระบอบประชาธิปไตย     
  8. “ดุสิตธานี” หรือ “นครจำลอง” ปัจจุบันเป็นสถานที่ตั้งของ     โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า   
  9. ในดุสิตธานีมีหนังสือพิมพ์อยู่ 3 ฉบับคือ 
    9.1   ดุสิตสมิท     
    9.2  ดุสิตสมัย         
    9.3  ดุสิตรีคอเดอร์
  10. ผู้ที่ทำหน้าที่บริหารในดุสิตธานีมีชื่อเรียกว่า       คณะนคราภิบาล      พลเมืองในดุสิตธานีเรียกว่า      ทวยนาคร 
    สมาชิกในสภาเรียกว่า    เชษฐบุรุษ    
    รัฐธรรมนูญของดุสิตธานีมีชื่อเรียกว่า    ธรรมนูญลักษณะปกครองคณะนคราภิบาล  พ.ศ.  2461
  11. เงินศึกษาพลี เก็บจาก   ชายทุกคนที่มีอายุระหว่าง  18 - 60  ปี   ยกเว้นผู้ที่ทำมาหากินไม่ได้   พระภิกษุ
         สามเณร    บาทหลวง   ทหาร   ตำรวจ   ฯลฯ   
     
  12. มหาวิทยาลัยแห่งแรกที่รัชกาลที่ 6 ทรงจัดตั้งคือ           จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย         ซึ่งแต่เดิมเป็น
    โรงเรียน        ข้าราชการพลเรือน        หรือโรงเรียน      มหาดเล็กหลวง      
  13. ในสมัยรัชกาลที่ 6 มีการนับศักราชโดยใช้        พุทธศักราช         แทนรัตนโกสินทร์ศก
  14. ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระบิดาแห่งชาตินิยมคือ        รัชกาลที่  6   
  15. พระบิดาแห่งการสหกรณ์คือ     พระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์     
  16. สหกรณ์แห่งแรกคือ       สหกรณ์วัดจันทร์ไม่จำกัดสินใช้   
  17. ในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้รวมกรมรถไฟสายเหนือและกรมรถไฟสายใต้เข้าด้วยกันแล้วเรียกว่า  กรมรถไฟหลวง
    เมื่อ 5 มิถุนายน 2460 แล้วโปรดให้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน  เป็นผู้บังคับบัญชา
  18. สถานีวิทยุโทรเลขได้เริ่มเปิดสถานีครั้งแรกที่ตำบล       ศาลาแดง        จังหวัด           กรุงเทพมหานคร
    และในส่วนภูมิภาคได้ทดลองกระจายเสียงที่จังหวัด        สงขลา  
  19. พระพุทธรูปที่รัชกาลที่ 6 โปรดให้บูรณะจากของเดิมที่สร้างไว้ตั้งแต่สมัยสุโขทัย        แล้วนำมาประดิษฐาน
    ณ  ซุ้มพระวิหารทิศพระปฐมเจดีย์คือ          พระร่วงโรจนฤทธิ์     
  20. โรงเรียนที่รัชกาลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้น โดยจัดระเบียบแบบโรงเรียนประจำในประเทศอังกฤษ            และ
    พระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์คือ     โรงเรียนมหาดเล็กหลวงกรุงเทพ  
  21. โรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ที่รัชกาลที่ 6 ทรงโปรดให้สร้างขึ้น  4  แห่งคือ   
    21.1 โรงเรียนพรานหลวง
    21.2 โรงเรียนมหาดเล็กหลวง
    21.3 โรงเรียนราชวิทยาลัย
    21.4 โรงเรียนมหาดเล็กหลวง   เชียงใหม่  
       ต่อมาได้ถูกยุบรวมกิจการไว้ในกรุงเทพมหานคร
    ในสมัยรัชกาลที่ 7 แล้วพระราชทานนามว่า      โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย       ตั้งแต่ พ.ศ. 2469 เป็นต้นมา
  22. การตราพระราชบัญญัตินามสกุลมีขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่  6
  23. รัชกาลที่ 6 โปรดให้ตั้ง      วรรณคดีสโมสร     เพื่อส่งเสริมการประพันธ์ภาษาไทยและให้นักเรียนเขียนนามแฝง ของรัชกาลที่ 6 เมื่อทรงเขียนวรรณกรรมด้านต่าง ๆ ดังนี้
    23.1 รามจิตติ    ...........................................  สำหรับบันเทิงคดีและสารคดีที่ทรงแปลจากภาษาต่างประเทศ
    23.2 อัศวพาหุ   ................................................................................  สำหรับเรื่องการเมืองและบทปลุกใจ 
    23.3 พันแหลม   ........................................................................................  สำหรับเรื่องเกี่ยวกับทหารเรือ
    23.4 น้อยลา   สุครีพ   ...............................................................................................  สำหรับนิทานต่าง ๆ
    23.5 ศรีอยุธยา    นายแก
    ้วนายขวัญ   พระขรรค์เพชร  ........................................................ สำหรับบทละคร
  24. กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ( พระองค์รัชนีแจ่มจรัส ) ใช้นามปากกาว่า     น.ม.ส.       วรรณกรรมที่นิพนธ์ไว้
    ที่สำคัญได้แก่    นิทานเวตาล     พระนลคำฉันท์     จดหมายจางวางหร่ำ     กนกนคร       ลิลิตสามกรุง
  25. ผู้ที่แต่งเพลงกราวกีฬาคือ    เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี  ( สนั่น  เทพหัสดิน  ณ  อยุธยา )   ใช้นามปากกาว่า ครูเทพ  ซึ่งได้แต่งแบบเรียนเช่นตรรกวิทยา ตำราเลขคณิต พีชคณิตแบบสอนอ่านจริยธรรม
  26. ผู้แต่งแบบเรียนชุดไวยากรณ์ไทย 4 เล่ม ได้แก่ อักขรวิธี วจีวิภาค วากยสัมพันธ์   และฉันทลักษณ์     คือ
    ผู้ที่ใช้นามปากกาว่า      อ.น.ก.    ชื่อจริงคือ    พระยาอุปกิตศิลปสาร   (  นิ่ม   กาญจนาชีวะ )  
  27. ผู้แต่งสามัคคีเภทคำฉันท์คือ    นายชิต   บุรทัต    
  28. ผู้แต่งอิลราชคำฉันท์คือ     พระยาศรีสุนทรโวหาร  (  ผัน  สาลักษณ์ ) 
  29. ในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ขึ้น เมื่อเดือน        สิงหาคม        พ.ศ.     2457
    ถึง วันที่  11 เดือน          พฤศจิกายน           พ.ศ.    2461
  30. สงครามโลกครั้งที่ 1 แบ่งออกเป็น 2  ฝ่ายคือ   
    30.1   ฝ่ายมหาอำนาจกลาง     
    30.2    ฝ่ายสัมพันธมิตร
  31. ฝ่ายมหาอำนาจกลาง มีสมาชิกประกอบด้วย       เยอรมัน  ออสเตรียฮังการี                              เป็นผู้นำ
  32. ฝ่ายสัมพันธมิตร     มีสมาชิกประกอบด้วย      อังกฤษ  ฝรั่งเศส  และรัสเซีย                           เป็นผู้นำ
  33. รัฐบาลไทยได้ประกาศสงครามกับฝ่าย     ฝ่ายมหาอำนาจกลาง ในสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อวันที่  22 
    เดือน           กรกฎาคม          พ.ศ.     2460
  34. รัฐบาลไทยได้ส่งทหารอาสา เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 จำนวน 2 กองคือ
    34.1 กองบินทหารบก
    34.2 กองทหารบกรถยนต์
  35. กองทหารอาสาของไทยทั้งหมดได้เดินทางไปสู่สมรภูมิ ในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยทาง     เรือ
    เมื่อ วันที่  19  เดือน       มิถุนายน      พ.ศ.   2461   ไปถึงเมือง มาเซลส์ ประเทศ    ฝรั่งเศส
    เมื่อ วันที่  30  กรกฎาคม  พ.ศ.   2461
  36. ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ทหารอาสาของไทย เสียชีวิต 20 นาย เพื่อเป็นเกีรติแก่ทหารอาสาที่เข้าร่วมรบในครั้งนี้
    รัฐบาลไทย  จึงได้สร้างอนุสรณ์สถาน  2  อย่างคือ 
    36.1 วงเวียน  22  กรกฎา
    36.2 อนุาวรีย์ทหารอาสา
  37. หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สงบลงแล้วรัฐบาลไทยได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมทำสัญญาสันติภาพ  ณ  พระราชวัง
    แวร์ซายส์        จำนวน  3 ท่านคือ
    37.1 พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจรูญศักดิ์กฤษฎา                                         อัครราชฑูตไทยประจำกรุงปารีส
    37.2 พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าไตรทศประพันธ์ (กรมหมื่นเทววงศ์วโรทัย)
    เสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศ
    37.3 พระยาพิพัฒน์โกษา                                                                            
    อัครราชฑูตไทยประจำกรุงโรม
  38. ชาวต่างชาติที่มีบทบาทในการช่วยเหลือไทย ในการแก้ไขสนธิสัญญาเบาว์ริ่ง คือ   ดร. ฟรานซีส บี. แซรยร์
    เป็นชาว    สหรัฐอเมริกา     ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น  พระยากัลยาณไมตรี
  39. ในสมัยรัชกาลที่ 6 ไทยสามารถแก้ไขสนธิสัญญาได้เพียง  2 ชาติคือ   
    39.1 สหรัฐอเมริกา       
      
    39.2 ญี่ปุ่น
  40. สนธิสัญญาที่ไทยสมารถแก้ไขได้แล้ว ในสมัยรัชกาลที่ 6 มีกำหนดระยะเวลา       10      ปี
  41. ธงชาติในสมัยรัชกาลที่ 6 เรียกว่า       “ธงไตรรงค์”     มีลักษณะดังนี้คือ 
    มีสีแดงอยู่แถบนอกสุด 2 แถบ ต่อมาเป็นแถบสีขาว 2 แถบและมีแถบสีน้ำเงินแถบใหญ่ อยู่ตรงกลาง
  42. ธงชาติในสมัยรัชกาลที่ 6 มี 3 สี ดังนี้ 
    39.1 สีแดง  หมายถึง        ชาติ
    39.2 สีขาว   หมายถึง       ศาสนา
    39.3 สีน้ำเงินหมายถึง      พระมหากษัตริย์
  43. รัชกาลที่ 6 ได้ให้ เจ้าฟ้าจักรพงศ์ภูวนารถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานรถ หาแก้วมรกตก่อนใหญ่
    จากประเทศ   รัสเซีย   เพื่อมาแกะสลักพระพุทธรูปที่สำคัญคือ   พระแก้วมรกตน้อย
  44. ปฏิมากรรมแบบไทย ซึ่ งสร้างตามแบบอุดมคติของไทยเดิม ในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้สร้างเมื่อ   พ.ศ. 2460   ด้วย
    ทองสัมฤทธ์ ประดิษฐานอยู่   ในซุ้ม มุมสนามด้านตะวันออกตรงข้ามกับสนามหลวงคือ  นางธรณีบีบผมมวย
  45. สถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ที่รัชกาลที่ 6 โปรดให้สร้างคือ               พระราชวังพญาไท
    ซึ่งเป็นที่ทำการของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในปัจจุบัน

Copyright By Chalengsak Chuaorrawan Sainampeung School
186 Sukhumwit 22 Sukhumwit RD Khongteay Khongteay Bangkok Thailand
e-mail address : chalengsak.ch@hotmail.com
Tel; 089-200-7752 mobile
                                                                 
http://www.sainampeung.ac.th