หน้าแรก
โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์
กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
สารบัญ
 
สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

  1. พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระนามเดิมว่า    ทับ    เป็นโอรสของ       รัชกาลที่ 2
    กับ  เจ้าจอมมารดาเรียม      ซึ่งต่อมา ร. 3 ได้โปรดสถาปนาขึ้นเป็น      สมเด็จกรมพระศรีสุลาลัย
  2. รัชกาลที่ 3 ประสูติเมื่อ . 31 . เดือน   มีนาคม    พ.ศ. 2330    ขึ้นครองราชย์เมื่อปี    พ.ศ. 2367
    ขณะที่มีพระชนมายุได้ 37  พรรษา ครองราชย์นาน 27 ปี เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ เดือน เมษายน 2394
    รวมพระชนมายุได้   64   พรรษา มีโอรสและธิดา  51   พระองค์
  3. การเก็บภาษีอากรค่านาในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้โปรดให้เก็บเป็น    เงิน โดยคิดในอัตราไร่ละ   1 สลึง
    และเก็บค่าขนส่งเข้าฉางหลวงในอัตราไร่ละ 1  เฟื้อง
  4. ในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการตั้งภาษีอากรขึ้นใหม่ ได้แก่ บ่อนเบี้ยจีน  หวย ก. ข.  อากรฝาง  อากรไม้แดง
     อากรเกลือ   ภาษีเบ็เสร็จ   ฯลฯ    
  5. ภาษีเบ็ดเสร็จ ในสมัยรัชกาลที่ 3 หมายถึง   อากรที่เก็บจากของที่นำลงเรือสำเภาไปขาย  
  6. ระบบเจ้าภาษีนายอากร หมายถึง การประมูลการเก็บภาษีอากรแทนรัฐบาล ผู้ใดประมูลได้ก็ได้เป็นเจ้าภาษี           นายอากรทำหน้าที่เก็บภาษีแทนรัฐบาล   
  7. เจ้าภาษีนายอากร ส่วนใหญ่เป็นชาว จีน
  8. ภาษีอากร ที่ยกเลิกไปในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้แก่ 
    8.1 ภาษีฝิ่น
    8.2 อากรค่าน้ำ
    8.3 อากรรักษาเกาะ
  9. อากรค่าน้ำ หมายถึง ภาษีที่เก็บจากชาวประมง
  10. อากรรักษาเกาะ หมายถึง ภาษีที่เก็บจากผู้เก็บไข่จาระเม็ดหรือฟองเต่าตนุ  
  11. ในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการเปลี่ยนเรือสำเภาที่ใช้ในการค้าขายมาเป็นเรือ กำปั่นใบ  
    ซึ่งคนไทยได้สร้างตามแบบฝรั่งผู้ที่สร้างเรือดังกล่าวคือ  หลวงนายสิทธิ์ (สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงสศ์)
  12. ในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการสร้างวัดวาอารามอย่างมโหฬาร       จนมีคำพังเพย          กล่าวกันว่า
    “   ถ้าใครใจบุญสร้างวัดวาอารามก็เป็นคนโปรด  ”
  13. พระอารามที่สร้างขึ้นใหม่  ในสมัยรัชกาลที่ 3  มี  3  วัดที่สำคัญคือ
    13.1 วัดเฉลิมพระเกียรติ      สร้างให้    สมเด็จกรมพระศรีสุลาลัย ( แม่ )
    13.2 วัดเทพธิดา                  สร้างให้   พระเจ้าลูกเธอกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ( ลูก )
    13.3 วัดราชนัดดาราม          สร้างให้    พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดี (หลาน )
  14. วัดที่ถือกันว่าเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 3 คือ วัดราชโอรสาราม  เดิมชื่อวัด    จอมทอง   
  15. วัดที่ถือกันว่า เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทยคือ   วัดพระเชตุพนวิมลมัลคลาราม  ( วัดโพธิ์ )
  16. ผู้ที่ให้กำเนิดพระพุทธศาสนา ธรรมยุติกนิกาย คือ     เจ้าฟ้ามงกุฎ    โดยได้รับแบบอย่างมาจาก  พระมอญรูปหนึ่ง มีนามฉายาว่า      “พระพุทธวังโส”      ชื่อ      “ซาย”  
  17. พระพุทธศาสนา ธรรมยุติกนิกาย กำเนิดขึ้นครั้งแรกที่วัด     ราชาธิวาส    ( วัดสมอราย )
  18. กงสุลประจำประเทศไทยครั้งแรกที่เป็นชาวอเมริกัน คือ       สติเฟน   แมตตูน    (  หมอมะตูน )  
  19. บุคคลแรกที่คิดประดิษฐ์ ตัวพิมพ์อักษรไทยขึ้นเป็นครั้งแรกคือ      ร้อยเอกเจมส์โลว์ และหมดจัดสัน
  20. การพิมพ์หนังสือของทางราชการครั้งแรกที่รัฐบาลจ้างโรงพิมพ์หมอบลัดเลย์พิมพ์คือ   ประกาศห้ามสูบฝิ่น
  21. หนังสือพิทพ์ฉบับแรกในประเทศไทยที่พิมพ์เป็นภาษาไทย มีชื่อว่า   บางกอกรีคอเดอร์   
  22. ผู้ที่นำการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยครั้งแรกคือ    หมอบรัดเลย์  
  23. ผู้ที่ริเริ่มการผ่าตัด โดยการใช้ยาสลบครั้งแรกในประเทศไทยคือ        หมอเฮาส์   
  24. ผู้บัญชาการหมอหลวงในสมัยรัชกาลที่ 3 ที่มีความรอบรู้ในวิชาการแพทย์แผนโบราณของไทยเป็นอย่างดี
    แล้วได้ไปศึกษาตำรายาแผนใหม่ของฝรั่งและวิธีการตรวจรักษาโรคตามวิธีแผนปัจจุบัน จนได้รับประกาศ
    นียบัตร ถวายเป็นพระเกียรติยศ จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา   คนไทยที่กล่าวมานี้คือ                กรมหลวงวงศาธิราชสนิท         
  25. ผู้ที่เรียนรู้วิชาการเดินเรือ วิชาดาราศาสตร์เดินเรือจนสามารถตั้งโรงเครื่องจักรและต่อเรือกลไฟได้เป็นครั้งแรก
    ของเมืองไทยคือ   เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์    ( พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว )
  26. ผู้ที่ริเริ่มตั้งโรงเรียน ซึ่งนับเป็นการจัดการศึกษาแผนใหม่ในประเทศไทยครั้งแรกคือ      แหม่มมะตูน
  27. โรงเรียนราษฎร์แห่งแรกในประเทศไทยคือ       โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย   
  28. โรงเรียนสตรีแห่งแรกคือ    โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง    ตั้งอยู่บริเวณ     โรงพยาบาลศิริราช       ในปัจจุบัน
  29. ผู้ก่อตั้งโรงเรียนกุลสตรีวังหลังคือ         แห่มโคล           โรงเรียนนี้ในปัจจุบันได้ย้ายมาอยู่ที่ 
    ถนน   สุขุมวิท  19   แล้วใช้ชื่อโรงเรียนว่า       โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย   
  30. วรรณกรรมเรื่องแรกที่พิมพ์ออกจำหน่ายคือ        พระอภัยมณี  
  31.    บทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว   ที่ได้พระราชนิพนธ์ไว้ที่สำคัญ        คือ
    31.1 เสภาขุนช้างขุนแผน
    31.2 โคลงปราบดาภิเษก 
    31.3 สังข์ศิลป์ชัย

  32. สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส ได้พระนิพนธ์วรรณกรรมไว้ที่สำคัญคือ 
    32.1 ลิลิตตะเลงพ่าย 
    32.2 สมุทรโฆษคำฉันท์ 
    32.3 ปฐมสมโพธิกถา

  33. ผู้ที่มีความสามารถในการแต่งและเล่นสักวาในสมัยรัชกาลที่ 3 - 5 คือ               คุณพุ่ม
    มีสมญานามอีกอย่างหนึ่งว่า                       บุษบาท่าเรือจ้าง
  34. ในสมัยรัชกาลที่ 5 คุณพุ่มได้แต่งวรรณกรรมไว้เรื่องหนึ่งคือ       เพลงยาวเฉลิมพระเกียรติ
  35. ผู้ที่แต่งบทละครเรื่องระเด่นลันได คือ            พระมหามนตรี ( ทรัพย์ )
Copyright By Chalengsak Chuaorrawan Sainampeung School
186 Sukhumwit 22 Sukhumwit RD Khongteay Khongteay Bangkok Thailand
e-mail address : chalengsak.ch@hotmail.com
Tel; 089-200-7752 mobile
                                                                 
http://www.sainampeung.ac.th