ภูมิอากาศ Climate
ภูมิอากาศ หมายถึง ค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิและปริมาณน้ำฝนที่เกิดขึ้นบริเวณใดบริเวณหนึ่งในหนึ่งปี หรือ
ภูมิอากาศ Climate) หมายถึง การรวบรวมเอาปัจจัยต่าง ๆ ทั้งอุณหภูมิ ความชื้น ความกดอากาศ ลม และปริมาณน้ำฝนรวมไปถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องอื่นในทางอุตุนิยมวิทยาในบริเวณหนึ่ง เป็นระยะเวลานาน สภาพภูมิอากาศของแต่ละพื้นที่ทั่วโลกจะมีความแตกต่างกันไปตามตำแหน่งที่ตั้งทางละติจูด สภาพภูมิประเทศ ความสูงของพื้นที่ น้ำแข็งหรือหิมะปกคลุม รวมไปถึงระยะห่างจากทะเลและกระแสน้ำในมหาสมุทร
การจัดแบ่งประเภทของภูมิอากาศขึ้นอยู่กับปริมาณวัดต่าง ๆ อย่างเช่น อุณหภูมิ หรือปริมาณน้ำฝนในการระบุประเภทของสภาพภูมิอากาศ โดยรูปแบบที่ใช้กันโดยทั่วไปในการแบ่งประเภทของสภาพภูมิอากาศของโลกได้รับการพัฒนามาจาก ดร.วลาดิเมียร์ เคิปเปน (Wladimir Koppen) นักภูมิศาสตร์ ชาวเยอรมัน
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อภูมิอากาศของทวีปยุโรป
1. ที่ตั้ง lattitude
ทวีปยุโรป ตั้งอยู่ระหว่างละติจูดที่ 34องศาเหนือถึง 72องศาเหนือ ทำให้ทวีปยุโรปมีภูมิอากาศอยู่ในเขตอบอุ่นและเขตหนาว
พื้นที่ส่วนใหญ่ ของทวีปนี้อยู่ในเขตอบอุ่น
2. ลมประจำปี
ลมประจำปีที่มีอิทธิพลต่อทวีปยุโรปมากที่สุด คือลมตะวันตกเฉียงใต้ เนื่องจากลมตะวัตกเฉียงใต้พัดผ่าน
มหาสมุทรแอตแลนติก ทำให้นำฝนมาตก บนพื้นแผ่นดินของทวีปยุโรป ทำให้อากาศเย็นสบาย
ส่วนลมขั้วโลกตะวันออกเฉียงเหนือพัดพาความหนาวเย็นจากขั้วโลกเหนือ
ทำให้อากาศ ทางตอนเหนือของทวีปมีอากาศหนาวยิ่งขึ้น เมื่อลมขั้วโลกตะวันออกเฉียงเหนือมาปะทะลมตะวันตกเฉียงใต้
ทำให้เกิดฝนปะทะมวลอากาศ * ตกใน ทวีปยุโรปอยู่เป็นประจำ
3. ความสูงของพื้นที่
เนื่องจากทวีปยุโรปมีลักษณะภูมิประเทศที่แตกต่างกันส่งผลให้ลักษณะภูมิอากาศในแต่ละท้องถิ่นแตกต่างกัน
เช่นบริเวณเทือกเขาแอลป์ในเขตประเทศ สวิตเซอร์แลด์ ประเทศอิตาลี ประเทศฝรั่งเศส
ประเทศออสเตรีย บริเวณยอดเขาจะมีหิมะปกคลุมส่วนเชิงเขาอากาศอบอุ่น หรือ
4 . สิ่งกีดขวางทางลม
บริเวณเทือกเขาเชอเลนในคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย เทือกเขาคานตาเบรียน,พีเรนีสในคาบสมุทรไอบีเรีย
เทือกเขาแอปเพนไนน์ในคาบสมุทรอิตาลี เทือกเขาไดนาริกในคาบสมุทรบอลข่าน
เทือกเขาแกรมเบรียนในสก็อตแลนด์ทางด้านรับลมของเทือกเขาจะมีฝนตกมาก เรียกว่า
ฝนปะทะภูเขา
5. กระแสน้ำในมหาสมุทร
ทวีปยุโรปได้รับอิทธิพลของกระแสน้ำอุ่นแอตแลนติกเหนือทำให้ชายฝั่งทางด้านตะวันตกของทวีปมีอากาศอบอุ่นชุ่มชื้น
เมื่อกระแสน้ำอุ่นแอตแลนติกเหนือไหลมาปะทะกับกระแสน้ำเย็นกรีนแลนด์ตะวันออก
ทำให้เกิดหมอกมากบริเวณ
ทะเลเหนือ และเป็นแหล่งปลาชุม ที่เรียกว่า ด็อกเกอร์แบงค์
เนื่องจากกระแสน้ำพาแพลงตอน phankton
มาตกบริเวณนี้
6. ระยะห่างจากทะเล
เนื่องจากทวีปยุโรปมีชายฝั่งทะเลที่ยาวมากอันเนื่องจากทวีปนี้มีอ่าวเว้าแหว่งเข้าไปในทวีปมากมาย
ทำให้ภายในทวีปได้รับอิทธิพลจากทะเลทั่วถึง อากาศจึงไม่ร้อนจัดหรือหนาวจัดจนเกินไป
จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ทวีปยุโรปมีลักษณะภูมิอากาศดังต่อไปนี้
1. ภูมิอากาศแบบทุนดรา
Tundra climate หรือ ภูมิอากาศแบบอาร์กติก Arctic climate จะปรากฏบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรอาร์กติกทางตอนเหนือของคาบสมุทรสแกนดิเนเวียและทางตอนเหนือของสหพันธรัฐ
รัสเซีย ลักษณะอากาศของเขตนี้ ฤดูร้อนมีระยะเวลาสั้นประมาณ 2-3 เดือน อุณหภูมิในฤดูร้อนเดือนกรกฎาคมเฉลี่ย
ต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ส่วนในฤดูหนาว อากาศหนาวจัด อุณหภูมิ ต่ำกว่าจุดเยือกแข็งยาวนานกว่า
6 เดือน ในเดือนมกราคมมีอากาศหนาวจัดอุณหภูมิประมาณ -14 องศาเซลเซียส มีฝนตกน้อย ปริมาณหยาดน้ำฟ้า**
ประมาณ 500 มิลลิเมตร ส่วนใหญ่ตกในรูปของหิมะ พืชพรรณธรรมชาติได้แก่พวก
มอส ตะไคร่น้ำ ไลเคน ส่วนในฤดูร้อนจะมีไม้ดอก ซึ่งเรียกว่า ทุนดราแพรรี
จำพวก ต้นอาร์กติกวิลโลว์ อาร์กติกปอบปี เจริญเติบโตในระยะเวลาสั้น ๆ
2. ภูมิอากาศแบบไทกา Taiga climate หรือ ภูมิอากาศแบบกึ่งอาร์กติก Continental Subarctic climate
จะปรากฏบริเวณตอนกลางของคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย ในเขตประเทศนอร์เวย์ สวีเดน
ฟินแลนด์ และ ภาคเหนือของรัสเซีย เนื่องจากอยู่ห่างจากทะเลทำให้ในฤดูหนาวอากาศหนาวจัดรุนแรง
มีระยะเวลาที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งนานกว่า 6 เดือน ในเดือนมกราคม
อุณหภูมิ ประมาณ - 6 องศาเซลเซียส ส่วนในฤดูร้อน มีอากาศ อบอุ่นขึ้น อุณหภูมิในเดือนกรกฎาคม
ประมาณ 16 องศาเซลเซียส มีฝนตกในฤดูร้อน ปริมาณ หยาดน้ำฟ้า 500-1,000 มิลลิเมตรต่อปี
ส่วนใหญ่ตกในรูปของหิมะ พืชพรรณธรรมชาติเป็นป่าสนไทกา ต้นไม้มีลักษณะตั้งตรง
กิ่งสั้นมีใบเล็กแหลม คล้ายเข็ม เพื่อลดการคลายน้ำจึงมีใบเขียวตลอดปี
3. ภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นสมุทรชายฝั่งตะวันตก Marine West-coast climate
จะปรากฏบริเวณชายฝั่งตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรป ทางตอนใต้ของคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย
ได้แก่ ตอนใต้ของนอรเวย์ สวีเดน เดนมาร์ก ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร เบลเยี่ยม
เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส ทางตะวันตกของ
เยอรมัน เนื่องจากพื้นที่อยู่ติดทะเลทำให้ได้รับ อิทธิพลของลมตะวันตก อย่างเต็มที่
โดยเฉพาะทางใต้ของ นอรเวย์ มีเทือกเขาเชอเลน ตั้งรับลมทำให้มีปริมาณน้ำฝนมาก
นอกจากนี้ยังได้รับอิทธิพลของ กระแสน้ำอุ่น แอตแลนติกเหนือ ทำให้อากาศอบอุ่นเย็นสบาย
ลักษณะอากาศในฤดูร้อนอากาศอบอุ่น ในฤดูหนาวอากาศเย็นสบาย ฝนตกเกือบตลอดทั้งปี
ปริมาณน้ำฝน มากกว่า 750 มิลลิเมตรต่อปี พืชพรรณธรรมชาติเป็นป่าไม้ใบกว้างผลัดใบ
พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ เมเปิล
วอลนัท เชสต์นัท โอ๊ก บีซ เบิร์ช แอช สวีท
4. ภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นทวีป Moist Continental climate
จะปรากฏบริเวณยุโรปตะวันออก ได้แก่ประเทศโปแลนด์ สาธารณรัฐเชก สาธารณรัฐสลาวัก
โรมาเนีย แลตเวีย เอสโทเนีย ที่ราบใหญ่สหพันธรัฐรัสเซีย เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ห่างไกลจากทะเล
ในฤดูหนาวอากาศหนาวเย็นเป็นระยะเวลานาน อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งนานถึง
4 เดือน ส่วนในฤดูร้อน อุณหภูมิค่อนข้างร้อน ฝนตกในฤดูร้อนส่วนใหญ่เกิดจากฝนพาความร้อน
ในฤดูหนาวมีหิมะตก ปริมาณหยาดน้ำฟ้า
750 มิลลิเมตรต่อปี พืชพรรณธรรมชาติเป็น ป่าไม้ใบกว้างผลัดใบและป่าผสมป่าสน
5. ภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้น Humid climate
จะปรากฏบริเวณทางตอนใต้ของยุโรปตะวันออก ทางตอนเหนือของคาบสมุทรบอลข่าน
ที่ราบลุ่มแม่น้ำดานูบได้แก่ประเทศโรมาเนีย บัลแกเรีย ฮังการี ลักษณะอากาศของเขตนี้
ได้รับอิทธิพลของลมตะวันตกปานกลาง อุณหภูมิในฤดูหนาวจะสูงกว่าเขตภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นทวีป
ในฤดูร้อน อากาศอบอุ่น อุณหภูมิค่อนข้างสูง มีฝนตกเกือบตลอดปี ปริมาณน้ำฝนประมาณ
650 มิลลิเมตรต่อปี พืชพรรณธรรมชาติเป็นป่าไม้ใบกว้างผลัดใบ
6. ภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน
Mediterranean climate
จะปรากฏทางตอนใต้ของทวีปยุโรป ได้แก่ประเทศโปรตุเกส สเปน ฝรั่งเศส อิตาลี
อัลเบเนีย สาธารณรัฐเอเลนนิก โครเอเชีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ลักษณะอากาศในฤดูร้อนอุณหภูมิค่อนข้างสูง
อากาศร้อนและแห้งแล้ง ส่วนในฤดูหนาวอากาศอบอุ่นและมีฝนตก ปริมาณน้ำฝนประมาณ
1,000 มิลลิเมตรต่อปี พืชพรรณธรรมชาติเป็นป่าไม้ใบกว้างไม่ผลัดใบ หรือไม้พุ่มเตี้ยสลับทุ่งหญ้า
ป่าละเมาะ ป่าแคระ chaparral
7. ภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้ากึ่งทะเลทราย
Semi Desert Climate
จะปรากฏบริเวณตอนกลางของคาบสมุทรไอบีเรีย ในเขตประเทศสเปน ทางตะวันตกของทะเลแคสเปียนทางตอนเหนือของทะเลดำ
ในเขตประเทศสาธารณรัฐยูเครน จอร์เจีย อาร์เมเนีย อาร์เซอร์ไบจัน
ลักษณะอากาศตอนกลางวันอากาศร้อนจัดอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ตอนกลางคืนอากาศหนาวจัด
อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ปริมาณน้ำฝนประมาณ 250-500 มิลลิเมตรต่อปี
พืชพรรณธรรมชาติเป็นทุ่งหญ้าสเต็ปป บางครั้งเรียกว่า
Steppe climate
*ฝนแบบปะทะมวลอากาศ
= การเคลื่อนที่ของมวลอากาศที่มีอุณหภูมิและความชื้นต่างกันพัดมาปะทะกัน
ลมที่มีอุณหภูมิสูงมีไอน้ำมากมากระทบกับลมที่มีอุณหภูมิต่ำ ไอน้ำกระทบความเย็นเกิดการควบแน่นตกลงมาเป็นฝน
ฝนพาความร้อน = เกิดจากอากาศร้อนลอยตัวสูงขึ้น โดยพาไอน้ำที่ระเหยลอยขึ้นไปในอากาศ
กลายเป็นเมฆฝน เมื่อไอน้ำอิ่มตัว ก็จะกลั่นตัวตกลงมาเป็นฝน
ฝนปะทะภูเขา = เกิดจากลมที่พัดพาความชื้นจากทะเลหรือมหาสมุทร ไปปะทะกับภูเขา
ด้านรับลมของภูเขาจะเกิดฝนตกหนักด้านหลังเขามีฝนตกน้อย
** หยาดน้ำฟ้า = ผลิตผลของน้ำที่ได้จากฟ้า ได้แก่ หิมะ ฝน ลูกเห็บ น้ำค้าง
เมฆ หมอก
หิมะ = ผลึกน้ำแข็งเกิดจากไอน้ำในอากาศเปลี่ยนสถานะกลายเป็นน้ำแข็งขนาดเล็ก
ฝน = ไอน้ำในอากาศที่เปลี่ยนสถานะจากเมฆกลายเป็นของเหลว
ลูกเห็บ = ไอน้ำในอากาศที่เปลี่ยนสถานะจากเมฆกลายเป็นน้ำแข็งขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง
น้ำค้าง = ไอน้ำในอากาศที่เปลี่ยนสถานะจากก๊าซกลายเป็นของเหลว พบอยู่ตามยอดหญ้า
ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียสจะกลายเป็นน้ำค้างแข็ง
เมฆ = ไอน้ำในอากาศที่ลอยตัวอยู่เป็นกลุ่มในระดับสูงในบรรยากาศ
หมอก = ไอน้ำในอากาศที่ลอยตัวอยู่เป็นกลุ่มเหมือนเมฆแต่ลอยตัวอยู่ในระดับต่ำมีฐานติดอยู่กับพื้นผิวโลก
|