บัตรประจำตัวประชาชน |
บัตรประชาชน ประชาชนให้ยื่นคำร้องขอมีบัตรประจำตัวประชาชนที่สำนักทะเบียน
ท้องที่ที่ตนมีชื่ออยู่ภายในทะเบียนบ้านปัจจุบัน ซึ่งผู้ร้องขอมีบัตรประจำตัวประชาชนจะต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย
มีอายุตั้งแต่ 7 ปีบริบูรณ์ ถึง 70 ปี ต้องยื่น คำร้องขอมีบัตรประชาชนภายในระยะเวลา
ดังนี้
- 60 วัน นับตั้งแต่วันที่อายุครบ 7 ปีบริบูรณ์
- 60 วัน นับตั้งแต่วันที่บัตรประจำตัวประชาชนเดิมหมดอายุ สูญหาย ถูกทำลาย
หรือ ชำรุดในสาระสำคัญ
- 60 วัน นับตั้งแต่วันที่เปลี่ยนชื่อตัว – ชื่อสกุลหรือเปลี่ยนชื่อตัวและชื่อสกุล
- 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้สัญชาติไทยหรือได้กลับคืนสัญชาติไทย
- 60 วัน นับตั้งแต่วันที่พ้นสภาพจากการได้รับการยกเว้น
- 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านอายุ 7 ปีบริบูรณ์
ต้องทำบัตรประจำตัวประชาชน
หลักฐานที่ต้องนำมาแสดง
1. การขอมีบัตรครั้งแรก กรณีผู้ขอมีอายุครบ 7 ปีบริบูรณ์ ให้แสดงสูติบัตร
(ใบเกิด)
2. การขอมีบัตรกรณีเพิ่มชื่อให้นำเอกสารของทางราชการออกให้อย่างใดอย่างหนึ่ง
และสอบสวนเจ้าบ้านหรือผู้น่าเชื่อถือมารับรอง
3. การขอมีบัตรกรณีบัตรหมดอายุ ให้แสดงบัตรเดิมที่หมดอายุ
4. การขอมีบัตร กรณีบุคคลได้รับการยกเว้นให้แสดงหลักฐานการเป็นผู้ได้รับการยกเว้น
เช่น บัตรประจำตัวข้าราชการ
5. การขอมีบัตร กรณีพ้นจากสภาพได้รับการยกเว้นให้แสดงหลักฐานการพ้นสภาพจากการได้รับการยกเว้น
เช่น
หนังสือแสดงการปลดทหารกองประจำการคำสั่งให้ออกจากราชการ
6. การขอมีบัตร กรณีบัตรหายถ้าเคยขอมีบัตรต่างท้องที่ให้ไปขอหลักฐานการขอมีบัตรเดิมที่ศาลากลางจังหวัด
หรือที่สำนักทะเบียนกลาง
(หากไม่มีรูปถ่ายในฐานข้อมูล) ให้นำเจ้าบ้านหรือข้าราชการมารับรอง
7. การขอเปลี่ยนบัตร กรณีบัตรชำรุดในสาระสำคัญให้แสดงบัตรเดิมที่ชำรุด
หากไม่สามารถพิสูจน์ด้วยบุคคล (รูปถ่าย) ให้เจ้าบ้านหรือข้าราชการมารับรอง
8. การขอเปลี่ยนบัตร กรณีเปลี่ยนชื่อตัว – ชื่อสกุลให้แสดงบัตรเดิมและหลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว
– ชื่อสกุล |
|
การทำบัตรประจำตัวประชาชน
บัตรประจำตัวประชาชนเป็นเอกสารราชการที่ออกให้สำหรับคนไทยที่มีชื่อในทะเบียนบ้านเท่านั้น เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการแสดงตน
ใช้พิสูจน์และยืนยันตัวบุคคลในการติดต่อราชการ การขอรับบริการหรือสวัสดิการในด้านต่างๆ จากหน่วยงานของรัฐรวมทั้ง
ใช้ประกอบการทำธุรกรรมต่างๆ ทำนิติกรรม ฯลฯ เช่น การสมัครงาน การขอเปิดบัญชีเพื่อทำธุรกรรมกับธนาคาร
การโอนอสังหาริมทรัพย์/อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น |
|
คุณสมบัติของผู้ที่ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน
1. มีสัญชาติไทย
2. ต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน (ท.ร.14)
3. มีอายุตั้งแต่ 7 ปี แต่ไม่เกิน 70 ปี
สำหรับผู้มีอายุเกิน 70 ปี และผู้ได้รับการยกเว้น จะขอมีบัตรประจำตัวประชาชนได้ |
|
บุคคลที่กฎหมายยกเว้นไม่ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน
1. สมเด็จพระบรมราชินี
2. พระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป
3. ภิกษุ สามเณร นักพรต และนักบวช
4. ผู้มีกายพิการเดินไม่ได้ หรือเป็นใบ้ หรือตาบอดทั้งสองข้าง หรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ
5. ผู้อยู่ในที่คุมขังโดยชอบด้วยกฎหมาย
6. บุคคลซึ่งกำลังศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ และไม่สามารถยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวประชาชนได้ |
|
1. กรณีขอทำบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรก |
เมื่อมีอายุ 7 ปีบริบูรณ์ และมีชื่อในทะเบียนบ้าน (ท.ร.14) ต้องทำบัตรประจำตัวประชาชนภายใน 60 วัน หากพ้นกำหนดจะเสียค่าปรับ ไม่เกิน 100 บาท
|
ต้องใช้หลักฐานประกอบด้วย
1. สูติบัตร หรือหลักฐานอื่นที่ราชการออกให้ เช่น ใบสุทธิ สำเนาทะเบียนนักเรียน หนังสือเดินทาง เป็นต้น เพื่อแสดงว่าเป็นบุคคลเดียวกับผู้มีชื่อในทะเบียนบ้าน
2. หากเด็กเคยเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล ต้องนำใบสำคัญมาแสดงด้วย และหากบิดา มารดาของเด็กเคยเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสุกล ต้องนำใบสำคัญมาแสดงด้วย
3. หากไม่มีเอกสารตามข้อ 2 ให้นำเจ้าบ้านหรือบุคคลผู้น่าเชื่อถือมาให้การรับรอง
4. กรณีบิดามารดาเป็นคนต่างด้าว ให้นำใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวของบิดา มารดามาแสดงด้วย หรือนำใบมรณบัตรของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ที่ถึงแก่กรรมไปแสดง
5. การขอมีบัตรครั้งแรกเมื่ออายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ต้องนำเอกสารหลักฐานที่กำหนดตามข้อ 1,2,3,4 และให้นำเจ้าบ้านและบุคคลที่น่าเชื่อถืออย่างน้อย 2 คน ไปพบเจ้าหน้าที่เพื่อสอบสวนและให้การรับรอง
* บุคคลน่าเชื่อถือ หมายถึง “บุคคลใดๆ ซึ่งมีภูมิลำเนาที่อยู่แน่นอน มีอาชีพมั่นคงและมีความรู้จักคุ้นเคยกับผู้ขอมีบัตรเป็นอย่างดี อาจเกี่ยวข้องเป็นญาติกันหรือไม่ก็ได้”
· ไม่เสียค่าธรรมเนียม |
|
|
2. กรณีบัตรเดิมหมดอายุ
เมื่อบัตรเดิมหมดอายุให้ทำบัตรใหม่ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่บัตรเดิมหมดอายุ หากพ้นกำหนดจะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 100 บาท ผู้ถือบัตรสามารถ
ขอทำบัตรใหม่ก่อนวันที่บัตรเดิมหมดอายุก็ได้ โดยให้ยื่นคำขอภายใน 60 วัน ก่อนวันที่บัตรเดิมหมดอายุ |
ต้องใช้หลักฐานประกอบด้วย
1. บัตรประจำตัวประชาชนเดิมที่หมดอายุ
2. หากบัตรเดิมหมดอายุเป็นเวลานาน ต้องนำเจ้าบ้านหรือพยานบุคคลที่น่าเชื่อถือมารับรองด้วย
· ไม่เสียค่าธรรมเนียม
|
|
3. กรณีบัตรหาย หรือถูกทำลาย
เมื่อบัตรประจำตัวประชาชนหาย หรือถูกทำลายให้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ณ ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเขตเทศบาลหรือเมืองพัทยา แล้วแต่กรณี
และขอทำบัตรใหม่ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่บัตรหายหรือถูกทำลาย หากพ้นกำหนดจะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 100 บาท
ต้องใช้หลักฐานประกอบด้วย
1. เอกสารที่มีรูปถ่ายของผู้ขอมีบัตรใหม่ที่ทางราชการออกให้ เช่น ใบอนุญาตขับขี่ หลักฐานการศึกษา หรือหนังสือเดินทาง เป็นต้น
2. หากไม่มีหลักฐานตามข้อ 2 ให้นำเจ้าบ้านหรือบุคคลผู้น่าเชื่อถือมาให้การรับรอง
· เสียค่าธรรมเนียม 20 บาท |
|
4. กรณีเปลี่ยนชื่อตัวหรือชื่อสกุลแล้วต้องเปลี่ยนบัตร
เมื่อผู้ถือบัตรเปลี่ยนชื่อตัว/ชื่อสกุล ต้องเปลี่ยนบัตรภายใน 60 วัน นับแต่วันที่แก้ไขชื่อตัว ชื่อสกุล ในทะเบียนบ้าน หากพ้นกำหนด
จะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 100 บาท |
ต้องใช้หลักฐานประกอบด้วย
1. บัตรประจำตัวประชาชนเดิมที่ต้องการเปลี่ยน
2. หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัวหรือชื่อสกุล แล้วแต่กรณี
· เสียค่าธรรมเนียม 20 บาท
|
|
5. กรณีบัตรเดิมชำรุดในสาระสำคัญ บัตรถูกทำลาย
หากบัตรเดิมชำรุดในสาระสำคัญ บัตรถูกทำลาย เช่น บัตรถูกไฟไหม้บางส่วน บัตรชำรุด เลอะเลือน เป็นต้น ต้องเปลี่ยนบัตรภายใน 60 วัน
นับแต่วันที่บัตรเดิมชำรุดหรือถูกทำลาย หากพ้นกำหนดจะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 100 บาท
ต้องใช้หลักฐานประกอบด้วย
1. บัตรประจำตัวประชาชนเดิมที่ชำรุดหรือถูกทำลาย
2. เอกสารที่มีรูปถ่ายของผู้ขอมีบัตรใหม่ที่ทางราชการออกให้ เช่น ใบอนุญาตขับขี่ หลักฐานการศึกษา หรือหนังสือเดินทาง เป็นต้น
3. หากไม่มีเอกสารตามข้อ 2 ให้นำเจ้าบ้านหรือบุคคลผู้น่าเชื่อถือมาให้การรับรอง
· เสียค่าธรรมเนียม 20 บาท |
|
กรณีบุคคลที่ได้รับการยกเว้นการมีบัตรประจำตัวประชาชน เช่นพระภิกษุ สามเณร ฯลฯ จะขอทำบัตรประจำตัวประชาชนก็ได้
ต้องใช้หลักฐานประกอบด้วย
1. กรณีพระภิกษุ หรือสามเณร ต้องย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้านของวัดก่อน แล้วแก้ไขคำนำหน้านามในทะเบียนบ้านเป็นพระ สามเณร
หรือสมศักดิ์ ก่อนจึงจะขอมีบัตรได้
2. หลักฐานที่แสดงว่าเป็นบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีบัตร เช่น หนังสือสุทธิของพระ หรือหนังสือเดินทาง กรณีเป็นผู้ที่อยู่ระหว่างการศึกษา
ณ ต่างประเทศ
· ไม่เสียค่าธรรมเนียม |
|
6. กรณีบุคคลที่พ้นสภาพได้รับการยกเว้นขอทำบัตร
ผู้ซึ่งพ้นสภาพได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน เช่น ผู้พ้นโทษจากเรือนจำหรือทัณฑสถาน เป็นต้น
ต้องไปขอทำบัตรประชาชนภายใน 60 วัน
นับแต่วันพ้นสภาพได้รับการยกเว้น หากพ้นกำหนดจะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 100 บาท |
ต้องใช้หลักฐานประกอบด้วย
1. หลักฐานที่แสดงว่าพ้นสภาพจากการยกเว้นไม่ต้องมีบัตร เช่น หนังสือสำคัญของเรือนจำหรือทัณฑสถาน (ร.ท.5)
หรือหนังสือเดินทางและเอกสารที่แสดงว่าเป็นผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ มีบัตรประจำตัวข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจแล้วแต่กรณี เป็นต้น
2. หากไม่ปรากฏข้อมูลการทำบัตร หรือบัตรเดิมได้หมดอายุนานแล้ว ต้องนำเจ้าบ้านและบุคคลน่าเชื่อถือมารับรองด้วย
· ไม่เสียค่าธรรมเนียม
|
|
7. กรณีผู้ถือบัตรย้ายที่อยู่
เพื่อให้รายการที่อยู่ที่ปรากฏในบัตรประจำตัวประชาชนตรงกับรายการในทะเบียนบ้านผู้ถือบัตรผู้ใดย้ายที่อยู่จะขอเปลี่ยนบัตรโดยที่บัตรเดิมยังไม่หมดอายุ
สามารถทำได้แต่หากไม่ขอเปลี่ยนบัตรก็สามารถใช้บัตรนั้นได้ต่อไปจนกว่าบัตรจะหมดอายุ |
ต้องใช้หลักฐานประกอบด้วย
1. บัตรประจำตัวประชาชนเดิม
· เสียค่าธรรมเนียม 20 บาท |
|
8. กรณีผู้ซึ่งมีอายุเกิน 70 ปี ขอมีบัตร
คนสัญชาติไทยซึ่งมีอายุเกิน 70 ปี จะขอมีบัตรประจำตัวประชาชนก็ได้ |
ต้องใช้หลักฐานประกอบด้วย
1. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
2. บัตรประจำตัวประชาชนเดิม (ถ้ามี)
3. หากไม่ปรากฏข้อมูลการทำบัตร หรือบัตรเดิมได้หมดอายุนานมากแล้ว ต้องนำเอกสารอื่นที่ทางราชการออกให้มาแสดง พร้อมทั้งนำเจ้าบ้านและบุคคลที่น่าเชื่อถือมารับรอง
· ไม่เสียค่าธรรมเนียม |
|
การขอมีบัตรกรณีเป็นบุคคลได้รับการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน
ต้องยื่นขอมีบัตรประจำตัวประชาชนภายใน 60 วัน นับแต่วันที่เพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน หากพ้นกำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 100 บาท |
ต้องใช้หลักฐานประกอบด้วย
1. เพิ่มชื่อกรณีแจ้งเกิดเกินกำหนด ใช้หลักฐานสูติบัตร และสอบสวนเจ้าบ้านหรือบุคคลน่าเชื่อถือ
2. เพิ่มชื่อกรณีชื่อตกสำรวจให้สำเนาทะเบียนบ้านที่ผู้นั้นเคยมีชื่ออยู่ก่อน หลักฐานการเพิ่มชื่อหรือหลักฐานที่ทางราชการออกให้ และสอบสวนเจ้าบ้านหรือบุคคลผู้น่าเชื่อถือ
· ไม่เสียค่าธรรมเนียม
|
|
การขอมีบัตรกรณีบุคคลซึ่งได้สัญชาติไทย หรือได้รับอนุมัติให้มีสัญชาติไทย หรือได้กลับคืนสัญชาติไทย
ยื่นคำขอมีบัตรภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับสัญชาติไทย หากเกินกำหนดมีโทษปรับไม่เกิน 100 บาท |
ต้องใช้หลักฐานประกอบด้วย
1. กรณีได้ได้รับอนุมัติให้มีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ หรือได้กลับคืนสัญชาติไทย ใช้หนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทย หรือหนังสือสำคัญ
แสดงการได้กลับคืนสัญชาติเป็นไทยแล้วแต่กรณี
2. หลักฐานอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ และสอบสวนเจ้าบ้านหรือบุคคลผู้น่าเชื่อถือ |
|
ขอเปลี่ยนบัตร กรณีเปลี่ยนคำนำหน้านาม
ต้องใช้หลักฐานประกอบด้วย
1. บัตรประจำตัวประชาชนเดิม
2. หลักฐานแสดงการเปลี่ยนคำนำหน้านาม เช่น ทะเบียนสมรส ทะเบียนอย่า เป็นต้น
· ไม่เสียค่าธรรมเนียม |