หน้าแรก | โรงเรียนสายน้ำผึ้ง
ในพระอุปถัมภ์ ฯ |
|||||
กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม |
||||||
สารบัญ | ||||||
วันมาฆบูชา |
|
วันมาฆบูชา เป็นวันบูชาพิเศษที่เกิดขึ้นในวันเพ็ญเดือนมาฆะ
หรือวันที่พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ วันนี้เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง "โอวาทปาฏิโมกข์" ซึ่งถือกันว่า เป็นหลักคำสอนที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา จึงถือว่าเป็นวันที่สำคัญยิ่งทางพุทธศาสนาอีกวันหนึ่ง
เนื่องจากวันดังกล่าวได้เกิดเหตุการณ์พิเศษที่เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต ขึ้น และเป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ประกาศหลักการและอุดมการณ์แห่งพุทธศาสนา
อันมีเนื้อหาหลัก ว่าด้วยการส่งเสริมให้มวลมนุษย์ ตั้งมั่นในการทำความดี
ละความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน นั่นก็คือ ทรงสอนให้ทุกคนมีความรักอันยิ่งใหญ่
เป็นรักที่ไม่เห็นแก่ตัว เพราะสอนให้รู้จักรัก และเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก คำว่า มาฆบูชา หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือนมาฆะ คือ เดือน 3 หรือพูดง่ายๆ ว่า เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงในคืนขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 นั่นเอง เหตุที่พุทธศาสนิกชนถือว่า วันมาฆบูชา เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา ก็เพราะในวันนี้ ในสมัยพุทธกาลเมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว ได้ 9 เดือน นับแต่วันวิสาขบูชาขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ขณะที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่ วัดเวฬุวัน อันเป็นวัดแห่งแรกในพุทธศาสนา ณ เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธนั้น พระสงฆ์สาวกที่พระพุทธเจ้าให้ไป เผยแพร่พระพุทธศาสนาตามเมืองต่างๆ ได้พร้อมใจกันกลับมาเฝ้าพระพุทธเจ้าโดยมิได้นัดหมายกันถึง 1,250 องค์ ซึ่งถือว่าเป็นเหตุอัศจรรย์ยิ่ง เพราะสมัยโบราณที่ไม่มีโทรศัพท์ การติดต่อสื่อสาร การนัดหมาย คนจำนวนมากที่อยู่คนละทิศคนละทางให้มาพบกันหรือประชุมกันที่ใดที่หนึ่ง เป็นเรื่องที่ยากและแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย โดยเฉพาะการมาของสาวกเหล่านี้ ถือว่าเป็นการมาประชุมพิเศษที่ประกอบด้วยองค์ 4 อันเป็นที่มาของการเรียกวันนี้อีกอย่างว่า วันจาตุรงคสันนิบาต นั่นคือ 1. เป็นวันมาฆปุรณมี คือวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำกลางเดือนมาฆะ จึงเรียกว่า มาฆบูชา 2. พระภิกษุ 1,250 องค์ มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย 3. พระภิกษุ เหล่านั้นล้วนเป็น เอหิภิกฺขุอุปสมฺปทา หมายถึง เป็นสาวกที่ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง 4. พระภิกษุที่มาประชุมนี้ ล้วนเป็นพระอรหันต์ ประเภทฉฬภิญญา ที่สำเร็จอภิญญา 6 อภิญญา 6 คือความรู้อันยอดยิ่งมี 6 ประการได้แก่ 1. แสดงฤทธิ์ได้ (อิทธิวิธี) 2. หูทิพย์ (ทิพยโสต) 3. รู้จักกำหนดใจผู้อื่น (เจโตปริยญาณ) 4. ระลึกชาติได้ (ปุพเพนิวาสานุสติญาณ) 5. ตาทิพย์ (ทิพยจักษุ) 6. ทำอาสวะกิเลสให้สิ้นไป-คือญาณหยั่งรู้ในธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย (อาสวักขยญาณ) การประชุมที่ประกอบด้วยความพิเศษ 4 ประการข้างต้นนี้ เกิดขึ้นใน วันมาฆบูชา นี้เป็นครั้งแรกและเป็นเพียงครั้งเดียวในสมัยพุทธกาลเมื่อพระองค์ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ ด้วยเหตุนี้ พระพุทธเจ้าจึงเห็นเป็นโอกาสเหมาะที่จะแสดงโอวาทปาติโมกข์ อันเป็นการประกาศหลักการ อุดมการณ์ และวิธีการปฏิบัติในการเผยแพร่พุทธศาสนาให้นำไปใช้ได้ในทุกสังคม ซึ่งหลักธรรมคำสอนดังกล่าวจะเรียกว่าเป็น ธรรมนูญแห่งพุทธศาสนา หรือ หัวใจของพุทธศาสนา ก็ได้ ในหนังสือวันสำคัญฯของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้กล่าวถึงหลักธรรมที่ว่านี้ว่าแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ เป็นหลักการ 3 อุดมการณ์ 4 และวิธีการ 6 ซึ่งสรุปได้ ดังนี้ หลักการ 3 หมายถึง สาระสำคัญที่ควรยึดถือเป็นแนวปฏิบัติ ได้แก่ 1. การไม่ทำบาปทั้งปวง ด้วยการไม่ประพฤติชั่วทั้งกาย วาจาและใจ 2. การทำกุศลให้ถึงพร้อม ด้วยการทำความดีทุกอย่างทั้งกาย วาจาและใจ 3. การทำจิตใจให้ผ่องใส ด้วยการละบาปทั้งมวล ทำใจให้ปราศจากกิเลส ความโลภ โกรธ หลง ถือศีลและบำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อมด้วยการปฏิบัติสมถะและวิปัสสนา อุดมการณ์ 4 หมายถึง หลักการที่ทรงวางไว้ เป็นแนวปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ได้แก่ 1. ความอดทน ให้มีความอดกลั้น ไม่ทำบาปทั้งกาย วาจาและใจ 2. ความไม่เบียดเบียน ให้งดเว้นจากการทำร้าย รบกวนหรือเบียดเบียนผู้อื่น 3. ความสงบ คือ การปฏิบัติตนให้สงบทั้งกาย วาจาและใจ และ 4. นิพพาน คือ การดับทุกข์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในทางพุทธศาสนา ที่จะเกิดขึ้นได้จากการดำเนินชีวิตตามหลักมรรค 8 วิธีการ 6 ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติ ได้แก่ 1. ไม่ว่าร้าย คือ ไม่กล่าวให้ร้ายผู้อื่น 2. ไม่ทำร้าย คือไม่เบียดเบียน ไม่ฆ่าผู้อื่น 3. สำรวมในปาติโมกข์ คือการเคารพ ระเบียบ กติกา กฎหมายและขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของสังคม 4. รู้จักประมาณ คือ รู้จักพอดี พอกิน พออยู่ หรือจะกล่าวแบบปัจจุบันว่าถือหลักเศรษฐกิจพอเพียงก็ได้ 5. อยู่ในสถานที่ที่สงัด คืออยู่ในสถานที่ที่สงบ และมีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม 6. ฝึกหัดจิตใจให้สงบ คือ การฝึกหัดชำระจิต หมั่นทำสมาธิภาวนา จะเห็นได้ว่าธรรมะที่พระพุทธองค์ตรัสสั่งสอนนี้ ล้วนมีความหมาย และความสำคัญต่อการดำรงชีวิต ไม่เพียงแต่ผู้อยู่ในเพศบรรพชิตที่บวชเรียนเท่านั้น คฤหัสถ์ผู้ครองเรือน และฆราวาส อย่างพวกเราทุกคนก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี |
Copyright By : Chalengsak
Chuaorrawan Sainampeung School 186 Sukhumwit 22 Sukhumwit RD Khlongtoei Khlongtoei Bangkok Thailand e-mail address : chalengsak.ch@hotmail.com Tel; 089-200-7752 mobile |
|
http://www.sainampeung.ac.th |