นางขุชชุตตรา อุบาสิกา
นางขุชชุตตราเป็นหญิงสาวพิการหลังค่อมและเป็นทาสี (หญิงรับใช้) ของนางสามาวดี เมื่อนางสามาวดีได้รับการอภิเษกเป็นพระมเหสีของพระพุทธเจ้าอุเทนแล้ว พระเจ้าอุเทนได้พระราชทานเงินวันละ 8 กหาปณะให้แก่นางเพื่อจัดซื้อดอกไม้บูชาพระพุทธเจ้า และพระสงฆ์สาวก
นางสามาวดีได้มอบหน้าที่ในการไปรับเงินและซื้อดอกไม้ให้แก่นางขุชชุตตราเป็นผู้รับผิดชอบ
นางขุชชุตตราเป็นหญิงที่อาภัพแต่เพียงร่างกาย แต่สติปัญญาเฉลียวฉลาดกว่าคนอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อนางได้รับมอบหมายจากนางสามาวดีให้เป็นผู้ไปรับเงินจากพระคลังวันละ
๘ กหาปณะ แทนที่นางจะเอาเงินไปซื้อดอกไม้ทั้งหมด แต่เอาไปซื้อเพียงครึ่งเดียว ส่วนครึ่งหนึ่งนางเบียดบังเอาไปเป็นของตน ถ้าใช้ภาษาในปัจจุบันก็คือทุจริตประพฤติมิชอบต่อหน้าที่นั่นเอง
วันหนึ่งนายสุมนมาลาการ (ช่างทำพวงมาลัยชื่อสุมน) มีความประสงค์จะถวายภัตตาหารแก่พระภิกษุสงฆ์โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน และปกติพระสงฆ์สาวกจะไปรับบิณฑบาตที่บ้านโฆสกเศรษฐีกุกกุฏเศรษฐี และปาวาริกเศรษฐี แห่งละ 500 รูป จนกระทั่งไม่มีพระภิกษุเหลือพอที่จะไปรับบิณฑบาตที่อื่น ดังนั้นผู้ประสงค์จะบำเพ็ญกุศลนิมนต์พระสงฆ์ไปรับภัตตาหารที่บ้านจะต้องพูดตกลงของแบ่งพระสงฆ์จากเศรษฐีทั้ง 3 เสียก่อน นายสุมนมาลาการก็ต้องไปขอโอกาสจากเศรษฐีก่อนโดยกล่าวว่าข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ทำพวงมาลัยให้ท่านบูชาพระตลอดมา บัดนี้ข้าพเจ้าประสงค์จะนิมนต์พระศาสดาพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์มารับบิณฑบาตที่บ้านบ้าง ขอท่านจงให้พระศาสดาแก่ข้าพเจ้าสักวันเถอะ เศรษฐีทั้ง 3 ให้โอกาสแก่นายมาลาการด้วยความเต็มใจ นายสุมนมาลาการจึงไปเฝ้าพระศาสดา และทูลขอนิมนต์ให้เสร็จไปเสวยภัตตาหารในวันรุ่งขึ้น
นางขุชชุตตราได้ไปรับพวงมาลัยที่ร้านดอกไม้ของนายสุมนมาลาการเหมือนทุกๆวัน แต่วันนี้นายสุมนมาลาการได้ขอร้องให้เธออยู่ช่วยจัดแจงเตรียมของถวายพระเสียก่อนค่อยกลับ นางรับคำเชิญพอเจ้าภาพถวายภัตตาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระพุทธเจ้าแสดงธรรม นางขุชชุตตราตั้งใจฟัง มองเห็นโทษแห่งการทุจริตต่อหน้าที่ด้วยปัญญาอันแจ่มชัด วันนั้นเธอจึงซื้อดอกไม้(พวงมาลัย) ครบทั้ง 8 กหาปณะ ทำให้ได้ดอกไม้มากกว่าทุกวันถึงเท่าตัว
พอนางสามาวดีเห็นดอกไม้ก็แปลกใจ จึงถามนางขุชชุตตราว่า แม่คุณ พระราชาพระราชทานเงินค่าดอกไม้ให้แก่เราเพิ่มขึ้นเป็น ๒ เท่าหรือนางขุชชุตตราตอบว่า มิใช่หรอก พระแม่เจ้านางสามาวดี ถ้าไม่ใช่ ทำไมวันนี้จึงมีดอกไม้มากกว่าทุกวัน
นางขุชชุตรา ในวันอื่นๆที่ผ่านมาหม่อมฉันทุจริตต่อหน้าที่เบียดบังเอาเงิน 4 กหาปณะเท่านั้น
นางสามาวดี เพราะเหตุใด วันนี้เธอจึงไม่ทำทุจริตต่อไปเล่า?
นางขุชชุตตรา เพราะหม่อมฉันฟังพระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้าแล้วได้บรรลุธรรม จึงมองเห็นโทษที่ไม่ซื่อสัตย์ การกระทำนั้นถึงคนอื่นไม่รูไม่เห็น แต่ตัวเราย่อมรู้และเห็นเสมอ
นางสามาวดีแทนที่จะโกรธ ดุด่าว่ากล่าวเธอหรือไล่เธอออกไปอยู่ที่อื่น หรือปลดเธอออกจากหน้าที่นั่นไปทำหน้าที่อื่นในฐานะที่เธอมีความผิดทุจริตต่อหน้าที่ กลับกล่าวว่า นี่แม่คุณ เจ้าจงทำให้พวกเราได้ดื่มอมตรส (รสพระธรรม) ที่เธอได้ดื่มแล้วนั้น นางขุชชุตตราได้ฟังเท่านั้นก็กล่าวตอบว่า ขอพระแม่เจ้าได้โปรดอนุญาตให้หม่อมฉันได้อาบน้ำชำระร่างกายก่อนเถิด นางสามาวดีสั่งให้จัดน้ำหอม 16 หม้อให้เธออาบ ให้มอบผ้าสาฎก (ผ้าห่มหรือผ้าคลุม) เนื้อดีอีก 2 ผืน นางขุชชุตตราใช้นุ่งผืนหนึ่ง ใช้เป็นอาสนะ (ที่นั่ง) อีกผืนหนึ่ง นางนั่งลงบนอาสนะนั้นแล้วเรียกหญิงบริวารของนางสามาวดีทั้งหมดประมาณ 500 คนมานั่งฟังนางขุชชุตตราแสดงธรรม ซึ่งเธอแสดงได้อรรถรสทำนองเดียวกับที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงในวันนั้น หญิงเหล่านั้นฟังธรรมเทศนาของเธอแล้วบรรลุโสดาปัตติผล หญิงเหล่านั้นกราบเธอ แล้วกล่าวว่า แม่คุณ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แม่ท่านไม่ต้องทำงานต่ำแบบงานคนใช้อีกต่อไป ขอให้ท่านจงอยู่ในฐานะมารดาและอาจารย์ของพวกเรา ให้ท่านไปสู่สำนักของพระบรมศาสดาฟังธรรมของพระองค์แล้วนำกลับมาแสดงธรรมแก่พวกเราเถิด ซึ่งนางก็สามารถทำได้ดีและได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าเป็นธรรมกถิกา (นักแสดงธรรมหญิง)
|