หน้าแรก
โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์ ฯ
กลุ่มสาระสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
สารบัญ
  1. การเคลื่อนที่ของโลกมี 2 ลักษณะ ได้แก่
    1. การหมุนรอบตัวเอง
    2. การโคจรรอบดวงอาทิตย์
  2. โลกหมุนรอบตัวเอง 1 รอบ ใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง หรือ 1 วัน
  3. เมื่อโลกหมุนรอบตัวเองตำแหน่งบนพื้นผิวโลกที่เคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็วมากที่สุดคือ บริเวณเส้นศูนย์สูตร
  4. การหมุนรอบตัวเองของโลกบริเวณ ตามแนวเส้นศูนย์สูตร จะมีอัตราเร็วเท่ากับ 1,670 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  5. เมื่อโลกหมุนรอบตัวเองตำแหน่งบนพื้นผิวโลกที่ไม่มีการเคลื่อนที่เลย ได้แก่
    1. ขั้วโลกเหนือ
    2. ขั้วโลกใต้
  6. เมื่อโลกหมุนรอบตัวเองด้วยอัตราเร็ว 1,670 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่เราไม่รู้สึกต่อความเร็วโนการหมุนของโลก เพราะ ขณะที่โลกหมุนรอบตัวเองอยู่นั้น โลกหอบเอาบรรยากาศที่หุ้มห่อโลกพร้อมกับตัวเราและสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราบนพื้นผิวโลกไปด้วย
  7. การที่โลกเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ ดวงอาทิตย์ เรียกว่า  การโคจร (revolution)
  8. โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบหนึ่งรอบใช้เวลาประมาณ 1 ปี หรือ 365 วัน 6 ชั่วโมง
  9. โดยปกติ 1 ปีจะมี 365 วัน ในปีที่มี 366 วัน เราเรียกปีนั้นว่า  ปีอธิกสุรทิน (leap)
  10. วันที่เพิ่มขึ้น 1 วัน ทุก ๆ 4 ปีจะนำไปเพิ่มในเดือน กุมภาพันธ์
  11. เดือนกุมภาพันธ์ ปีศักราชที่มี 29 วันคือ คริสต์ศักราชที่นำเลข 4 ไปหารแล้วลงตัวไม่มีเศษหรือเศษเป็น 0
  12. ถ้าเราอยู่ที่ดาวเหนือจะมองเห็นโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ในทิศทาง ทวนเข็มนาฬิกา หรือจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก
  13. ถ้าเราอยู่ที่ดาวเหนือจะมองเห็นโลกหมุนรอบตัวเองในทิศทาง ทวนเข็มนาฬิกา หรือจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก
  14. เหตุที่โลกของเรามีการเปลี่ยนฤดูกาลเพราะ โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์
  15. เมื่อโลกหมุนรอบตัวเอง จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ กลางวันและกลางคืน
  16. แกนของโลกทำมุมเอียงกับเส้นตั้งฉากของระนาบการโคจรของโลกเท่ากับ  23องศาครึ่ง และทำมุมเอียงกับระนาบการโคจรของโลกเป็นมุม 66 องศาครึ่ง
  17. สาเหตุที่ซีกโลกเหนือมีระยะเวลากลางวันมากกว่ากลางคืนเพราะ แกนของโลกหันขั้วเหนือเข้าหาดวงอาทิตย์
  18. สาเหตุที่ซีกโลกใต้มีระยะเวลากลางวันมากกว่ากลางคืนเพราะ แกนของโลกหันขั้วใต้เข้าหาดวงอาทิตย์
  19. ซีกโลกใต้เริ่มมีระยะเวลากลางวันมากกว่ากลางคืนตั้งแต่ วันที่ 22 กันยายน ถึง วันที่ 21 มีนาคม
  20. ซีกโลกเหนือเริ่มมีระยะเวลากลางวันมากกว่ากลางคืนตั้งแต่ วันที่ 21 มีนาคม ถึง วันที่ 22 กันยายน
  21. โลกของเราจะมีระยะเวลาของภาคกลางวันและภาคกลางคืนยาวเท่ากันเรียกว่า วิษุวัต (equinox)
  22. โลกของเราจะมีระยะเวลาของภาคกลางวันและภาคกลางคืนยาวเท่ากันจะตรงกับวันที่ 21 มีนาคม และวันที่ 22 กันยายน
  23. วันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิของเขตอบอุ่นในซีกโลกเหนือเรียกว่า วสันตวิษุวัติ (vernal equinox) จะตรงกับวันที่ 21  มีนาคม
  24. วันเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วงของเขตอบอุ่นในซีกโลกเหนือเรียกว่า ศารทวิษุวัติ (autumnal equinox) จะตรงกับวันที่ 22  กันยายน
  25. วันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิของเขตอบอุ่นในซีกโลกใต้เรียกว่า วสันตวิษุวัติ (vernal equinox) จะตรงกับวันที่ 22  กันยายน
  26. วันเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วงของเขตอบอุ่นในซีกโลกใต้เรียกว่า ศารทวิษุวัติ (autumnal equinox) จะตรงกับวันที่ 21  มีนาคม
  27. แสงอาทิตย์จะส่องตั้งฉาก บริเวณทรอปิกออฟแคนเซอร์ ณ วันที่ 21 มิถุนายน ถือว่าเป็นวันเริ่มต้นฤดูร้อนของเขตอบอุ่นในซีกโลกเหนือ เรียกว่า ครีษมายัน หรือ อุตรายัน( summer  solstice)
  28. แสงอาทิตย์จะส่องตั้งฉาก บริเวณทรอปิกออฟทรอปิคอร์น ณ วันที่ 22 ธันวาคม ถือว่าเป็นวันเริ่มต้นฤดูหนาว ของเขตอบอุ่นในซีกโลกเหนือ เรียกว่า เหมายัน หรือ ทักษิณายัน( winter  solstice)
  29. แสงอาทิตย์จะส่องตั้งฉาก บริเวณทรอปิกออฟทรอปิคอร์น ณ วันที่ 22 ธันวาคม ถือว่าเป็นวันเริ่มต้นฤดูร้อน ของเขตอบอุ่นในซีกโลกใต้  เรียกว่า ครีษมายัน หรือ อุตรายัน( summer  solstice)
  30. แสงอาทิตย์จะส่องตั้งฉาก บริเวณทรอปิกออฟแคนเซอร์ ณ วันที่ 21 มิถุนายน ถือว่าเป็นวันเริ่มต้นฤดูหนาว ของเขตอบอุ่นในซีกโลกใต้ เรียกว่า เหมายัน หรือ ทักษิณายัน( winter  solstice)
  31. บริเวณที่สามารถเห็นดวงอาทิตย์เที่ยงคืนได้แก่
    1.  ในซีกโลกเหนือตั้งแต่    เส้นอาร์กติกเซอร์เคิล ถึง ขั้วโลกเหนือ
    2.  ในซีกโลกใต้ตั้งแต่      เส้นแอนตาร์กติกเซอร์เคิล ถึง ขั้วโลกใต้
  32. The LAND of Midnight Sun ในซีกโลกเหนือ จะเห็นดวงอาทิตย์อยู่สูงจากขอบฟ้ามากที่สุด เวลา 24.00 นาฬิกา  ณ วันที่ 21 มิถุนายน
  33. The LAND of Midnight Sun ในซีกโลกใต้ จะเห็นดวงอาทิตย์อยู่สูงจากขอบฟ้ามากที่สุด เวลา 24.00 นาฬิกา  ณ วันที่ 22 ธันวาคม
  34. พหุสงกรานต์เหนือ(perihelion) คือ ตำแหน่งที่โลกโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด
  35. โลกจะโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด ประมาณ  วันที่ 3 มกราคมของทุกปี
  36. พหุสงกรานต์ใต้ (aphelion) คือ ตำแหน่งที่โลกโคจรอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มากที่สุด
  37. โลกจะโคจรออกห่างจากดวงอาทิตย์มากที่สุด ประมาณ วันที่ 4 กรกฎาคมของทุกปี
  38. เขตละติจูดกลางของซีกโลกเหนือ หมายถึง  บริเวณตั้งแต่ ทรอปิกออฟแคนเซอร์ ถึง อาร์กติกเซอร์เคิล
  39. เขตละติจูดกลางของซีกโลกใต้ หมายถึงบริเวณตั้งแต่ ทรอปิกออฟแคบริคอร์น ถึง แอนตาร์กติกเซอร์เคิล
  40. เขตละติจูดต่ำ หมายถึง บริเวณตั้งแต่ ทรอปิกออฟแคนเซอร์ ถึง  ทรอปิกออฟแคบริคอร์น
  41. ดวงจันทร์ไม่มีแสงในตัวเองแต่เราจึงมองเห็นดวงจันทร์ได้เพราะ ดวงจันทร์สะท้อนแสงอาทิตย์มายังโลก
  42. ดวงจันทร์โคจรรอบโลก 1 รอบ กินเวลานาน  29  วัน
  43. เมื่อดวงจันทร์โคจรรอบโลกทำให้เกิดปรากฏการณ์   ข้างขึ้น ข้างแรม   น้ำขึ้น น้ำลง
  44. วันเดือนดับ ตรงกับวัน  แรม 14 -15 ค่ำ
  45. เราจึงเห็นดวงจันทร์เพียงด้านเดียวเพราะ ดวงจันทร์หมุนรอบตัวเองหนึ่งรอบเท่ากับโคจรรอบโลกหนึ่งรอบ
  46. การเกิดข้างขึ้นข้างแรมหนึ่งรอบใช้เวลานาน   29  วัน
  47. ถ้าวันนี้เป็นวันพระกลางเดือนวันพระครั้งต่อไปจะตรงกับ   วันแรม 8 ค่ำ
  48. ถ้าวันนี้เกิดปรากฏการณ์น้ำตายอีก    15 วันจะเกิดปรากฏการณ์อย่างนี้อีก
  49. วันที่ 12 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ วันที่  16  จะเกิดน้ำตายอีกครั้ง
  50. จันทรุปราคาเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลา กลางคืน อันเนื่องจากดวงอาทิตย์ โลกและดวงจันทร์โคจะมาอยู่ในแนวเดียวกันจะเกิดในช่วงวันขึ้น 14-15 ค่ำและวันแรม 1 ค่ำ
 
 

Copyright By : Chalengsak Chuaorrawan Sainampeung School
186 Sukhumwit 22 Sukhumwit RD Khlongtoei Khlongtoei Bangkok Thailand
e-mail address : chalengsak.ch@hotmail.com
Tel; 089-200-7752 mobile
http://www.sainampeung.ac.th