- โลก (Earth) มีเส้นผ่าศูนย์กลางบริเวณศูนย์สูตรยาว 12,756 กิโลเมตร
- โลก (Earth) มีเส้นผ่าศูนย์กลางจากขั้วโลกเหนือถึงขั้วโลกใต้ 12,713 กิโลเมตร
- เส้นศูนย์สูตร (Equator) คือ เส้นที่ลากในแนวนอนไปรอบโลก โดยระนาบของวงกลมผ่านจุดศูนย์กลางของวงกลม แล้วเส้นรอบวงจะแบ่งโลกออกเป็นสองส่วนเท่ากันคือซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้
- เส้นวงกลมใหญ่ (Great Circle) คือ เส้นรอบวงที่เราลากไปรอบผิวโลกโดยให้ระนาบของวงกลมผ่านจุดศูนย์กลางวงกลม
- เส้นวงกลมเล็ก (Small Circle) คือ เส้นที่เราลากไปรอบผิวโลกโดยระนาบของวงกลมไม่ผ่านจุดศูนย์กลางวงกลม แล้วบรรจบมาเป็นวงกลม
- เส้นเมริเดียน (Meridians) คือ เส้นที่ลากเชื่อมตำแหน่งบนพื้นผิวโลกที่มีค่าลองจิจูดเดียวกัน
- เส้นเมริเดียนปฐม (Prime Meridian) คือ เส้นเมริเดียนเส้นแรกที่ลากจากขั้วโลกเหนือลงสู่ขั้วโลกใต้ โดยลากผ่านหอดูดาว ณ ตำบลกรีนิช กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
- เส้นขนาน (Parallels) คือ เส้นที่ลากเชื่อมตำแหน่งบนพื้นผิวโลกที่มีค่าละติจูดเดียวกัน
- ละติจูด (Latitude) คือ ตำแหน่งบนพื้นผิวโลกที่เกิดจากการวัดค่ามุมจากใจกลางโลกเป็นมุมยกขึ้นหรือกดลงจากแนวระนาบของศูนย์สูตร ถ้าวัดเป็นมุมยกขึ้นมีหน่วยเป็นองศาเหนือวัดเป็นมุมกดลงมีหน่วยเป็นองศาใต้
- ลองจิจูด (Longitude) คือ ระยะทางเชิงมุมที่วัดจากใจกลางโลกออกจากแนวระนาบของเมริเดียนปฐมซึ่งมีตำแหน่งอยู่ที่ 0 องศา ณ ตำบลกรีนิชเป็นหลัก วัดไปทางตะวันออก 180 องศาตะวันออก และทางตะวันตก 180 องศาตะวันตก
- เส้นโครงแผนที่ คือ ระบบของเส้นที่สร้างขึ้นในพื้นที่แบนราบ เพื่อแสดงลักษณะของเส้นขนานและเส้นเมริเดียน โดยถ่ายทอดเส้นเหล่านั้นจากผิวโลก ซึ่งเป็นทรงกลมลงบนพื้นที่แบนราบ
- ระบบพิกัดที่ใช้อ้างอิงกำหนดตำแหน่งบนแผนที่ที่นิยมใช้กับแผนที่ในปัจจุบัน มีอยู่ด้วยกัน 2 ระบบ คือ
24.1 พิกัดภูมิศาสตร์ geographic coordinate
24.2 พิกัดกริด grid coordinate
- การสร้างเส้นโครงแผนที่ อาศัยหลักการฉายเส้นเมริเดียนและเส้นขนานจากพื้นผิวลูกโลกลงบนแผ่นกระดาษ โดยการใช้พื้นผิวรูปทรงเรขาคณิต 3 ชนิดได้แก่ รูประนาบ (Plane)
รูปทรงกรวย (Cone) และรูปทรงกระบอก (Cylinder)
- โปรเจคชั่นของแผนที่ คือ ระบบการเขียนแนวเส้นที่แทนเส้นเมริเดียนและเส้นขนาน (Meridians and Parallels) ของพิภพทั้งหมด หรือ ส่วนใดส่วนหนึ่งลงบนพื้นแบนราบตามมาตราส่วน
- ทิศเหนือจริง (True North) คือแนวที่นับจากตำบลใด ๆ บนพิภพไปยังขั้วโลกเหนือจะเห็นว่าเส้น Longitude ทุกเส้น ก็คือแนวทิศเหนือจริง ตามปกติใช้สัญลักษณ์รูปดาวแทนทิศเหนือจริง
โดยทั่วโปจะไม่ใช้ทิศเหนือจริงในการอ่านแผนท
- ทิศเหนือกริด (Grid North) คือ แนวเส้นทางตั้งตามเส้นตารางของระบบเส้นตารางในแผนที่ แนวทิศเหนือกริดอาจจะเบนไปจากแนวทิศเหนือจริงหรือแนวทิศเหนือแม่เหล็กก็ได้
- ทิศเหนือแม่เหล็ก ( Magnetic North) คือ แนวทิศตามปลายลูกศรที่แสดงทิศเหนือของเข็มทิศ ซึ่งโดยปกติเข็มทิศจะชี้ไปทางขั้วเหนือของแม่เหล็กโลก
- อะซิมุท ( Azimuth) คือ การบอกทิศทาง โดยการวัดขนาดของมุมในทางราบที่วัดจากแนวทิศเหนือหลักเวียนตามเข็มนาฬิกา มาบรรจบกับแนวเป้าหมายที่ต้องการ มุมทิศอะซิมุท จะมีค่าตั้งแต่ 0 - 360 องศา และเมื่อวัดมุมจากเส้นฐานทิศเหนือหลักชนิดใด ก็จะเรียกตามทิศเหนือหลักนั้น เช่น อะซิมุทจริง อะซิมุทกริด อะซิมุทแม่เหล็ก
- แผนที่ คือ สิ่งที่แสดงลักษณะของผิวโลก ทั้งที่เป็นอยู่ตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยแสดงลงบนวัสดุแบนราบ อาศัยการย่อส่วนให้เล็กลงตามตราส่วนที่ต้องการและใช้เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์แทนสิ่งที่ปรากฏอยู่ บนผิวโลก
- ชื่อภูมิศาสตร์ Geographic name ภายในขอบระวางของแผนที่ เป็นตัวอักษรที่แจ้งให้ทราบสถานที
ตามปกติถ้าเป็นอักษรไทยจะใช้สี แดง Red อักษรภาษาอังกฤษใช้สี ดำ Black
- แผนผังเดคลิเนชั่น หรือ มุมเยื้อง (Decclination Diagram) ปรากฎที่ขอบระวางตอนล่างแสดงความสัมพันธ์ระหว่างทิศเหนือ 3 ทิศ คือ
ทิศเหนือจริง (True North) ใช้สัญลักษณ์ คือ รูปดาว
ทิศเหนือกริด (Grid North) ใช้สัญลักษณ์ คือ GN
ทิศเหนือแม่เหล็ก ( Magnetic North) ใช้สัญลักษณ์ คือ รูปลูกศรครึ่งซีก
มาตราส่วนของแผนที่ คือ อัตราส่วนระหว่างระยะในแผนที่กับระยะจริงบนพื้นโลก
- ศัพทานุกรม (Grossary) คือ สิ่งที่อธิบายเพื่อบอกให้ทราบว่าแผนที่นี้ จัดทำขึ้น2 ภาษา คือ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ คำบางคำจำเป็นต้องให้ทับศัพท์ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทราบความหมายของคำทับศัพท์นั้น
- แผนที่ที่สมบูรณ์จะต้องมีองค์ประกอบดังนี้
- ชื่อแผนที่ ( map name )
- ขอบระวางแผนที่ ( border )
- ทิศทาง ( direction )
- พิกัด ( coordinate )
- มาตราส่วน ( map scale )
- ชื่อภูมิศาสตร์ ( geographic name )
- สัญลักษณ์ ( symbol )
- คำอธิบายสัญลักษณ์ ( legend )
- ศัพทานุกรม ( glossary )
- มาตราส่วนของแผนที่ คือ อัตราส่วนระหว่างระยะในแผนที่กับระยะจริงบนพื้นโลก
- มาตราส่วนที่นิยมใช้มี 3 ชนิดดังนี้
- มาตราส่วนคำพูด ( verbal scale )
- มาตราส่วนเส้น, มาตราส่วนรูปแท่ง ( graphic scale , bar scale)
- มาตราส่วนเศษส่วน ( representative fraction )
- สัญลักษณ์ที่ใช้ในแผนที่แบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
- สัญลักษณ์ที่เป็นจุด ( point symbol )
- สัญลักษณ์ที่เป็นเส้น ( line symbol )
- สั้ญลักษณ์ที่เป็นพื้นที่ , รูปหลายเหลี่ยม ( area symbol, polygon )
- สี color ที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ มาตรฐานในแผนที่ มี 5 สี ดังนี้
4.1 สีดำ black ใช้แทน สิ่งต่าง ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น หมู่บ้าน วัด โรงเรียน เป็นต้น นอกจากนี้ยังใช้สีดำแทนเส้นกริดและเลขกำกับเส้นกริด
4.2 สีแดง red ใช้แทน ถนนและรายละเอียดพิเศษอื่น ๆ
4.3 สีน้ำเงิน blue ใช้แทน บริเวณที่เป็นน้ำ เช่นแม่น้ำ ลำคลอง บึง ทะเล ทะเลสาบมหาสมุทร
4.4 สีน้ำตาล brownใช้แทน ความสูง เช้นเส้นชั้นความสูง เลขกำกับเส้นชั้นความสูง
4.5 สีเขียว green ใช้แทน พื้นที่ป่าไม้ พื้นที่การเกษตร
- การบอกระดับความสูงของภูมิประเทศ ( topography) ใช้ระดับน้ำทะเลปานกลาง หรือ รทก. (msl) เป็นเกณฑ์กำหนดความสูง แผนที่แสดงระดับความสูงนิยมแสดงแตกต่างกัน 4 รูปแบบดังนี้
28.1 เส้นชั้นความสูง contour line คือ เส้นที่ลากผ่านภูมิประเทศบริเวณที่มีระดับความสูงเท่ากันและมีตัวเลขกำกับค่าของเส้นชั้นความสูงนั้น ๆ
28.2 แถบสีแสดงความสูง layer-tinting คือ การใช้แถบสีจำแนกความแตกต่างของลักษณะภูมิประเทศ ทั้งพื้นดินและพื้นน้ำ
28.3 เส้นลายขวานสับ หรือเส้นลาดเขา hachure คือ เส้นขีดสั้น ๆ เรียงกันตามทิศทางลาดของพื้นดิน เพื่อแสดงรูปทรงของภูมิประเทศนั้น ถ้าเป็นภูมิประเทศที่ลาดชัน สัญลักษณ์ ในแผนที่ภูมิประเทศ จะแสดงด้วยเส้นขีดสั้น หนาและชิดกัน แต่ถ้าเป็นพื้นที่ลาดเทจะแสดงด้วยเส้นขีดยาว บางและห่างกัน
28.4 การแรเงา shading คือ เป็นการแสดงความสูงของพื้นที่หยาบ ๆ โดยเขียนหรือแรเงาพื้นที่ให้มีลักษณะเป็นภาพสามมิติหรือมีทรวดทรง
- ภูมิประเทศเป็นพื้นดิน ใช้สีเป็นสัญลักษณ์ดังนี้
29.1 ที่ราบต่ำ สีที่ใช้ คือ เขียวแก่ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 0 – 200 เมตร
29.2 ที่ราบสูง สีที่ใช้ คือ เขียวอ่อน สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 200 – 500 เมตร
29.3 ที่สูง เนินเขา สีที่ใช้ คือ เหลือง สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 500 – 1,000 เมตร
29.4 ภูเขา สีที่ใช้ คือ เหลืองแก่ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,000 – 2,000 เมตร
29.5 ภูเขาสูง สีที่ใช้ คือ น้ำตาล สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 2,000 – 3,000 เมตร
29.6 ภูเขาสูงมาก สีที่ใช้ คือ ม่วง สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 3,000 – 200 เมตร
29.7 ภูเขามีหิมะปกคลุม สีที่ใช้ คือ ขาว สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง มากกว่า5,000 เมตร
- ภูมิประเทศเป็นพื้นน้ำ ใช้สีเป็นสัญลักษณ์ดังนี้
30.1 ไหล่ทวีป สีที่ใช้ คือ ฟ้าอ่อน ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 0 – 200 เมตร
30.2 ทะเล สีที่ใช้ คือ ฟ้าแก่ ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 200 – 4,000 เมตร
30.3
ทะเลลึก สีที่ใช้ คือ น้ำเงินอ่อน ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 4,000 – 6,000 เมตร
30.4 มหาสมุทร สีที่ใช้ คือ น้ำเงินแก่ ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง มากกว่า 6,000 เมตร
ให้นักเรียนแสดงวิธีทำหาค่าในคำถาม
- แผนที่กำหนดมาตราส่วน 1 : 250,000 ถ้านักเรียนต้องการวัดระยะทางให้ได้ 18 ก.ม. ระยะทาง ในแผนที่ ยาวเท่าไร
มาตราส่วน 1 : 250,000 เท่ากับ ระยะทางในแผนที่ 1 ซ.ม. ต่อ ระยะทางจริงบนพื้นโลก 2.5 ก.ม.
ระยะทางบนพื้นโลก 2.5 ก.ม. เท่ากับ ระยะทางในแผนที่ = 1 เซนติเมตร
ระยะทางบนพื้นโลก 1 ก.ม. เท่ากับ ระยะทางในแผนที่ = 1 ÷ 2.5 เซนติเมตร
ระยะทางบนพื้นโลก 18 ก.ม. เท่ากับ ระยะทางในแผนที่ = 1 ÷ 2.5 × 18 เซนติเมตร
= 7.2 เซนติเมตร
2. สมชายเดินทางโดยรถยนต์จากตำบล ก. ไปยังอำเภอ ข. หน้าปัดรถยนต์บอกระยะทางได้ 40 ไมล์ สมชายต้องเขียน ระทาง จากตำบล ก. ไปยังอำเภอ ข. ลงในแผนที่โดยใช้มาตราส่วน 1 ซ.ม. ต่อ 2 ก.ม. ระยะทางในแผนที่ตำบล ก. ไปยังอำเภอ ข. จะยาวเท่าไร
การเปลี่ยนระยะทางจากระบบอังกฤษเป็นระบบเมตริก 5 ไมล์ = 8 กิโลเมตร
ระยะทาง 40 ไมล์ = 8 ÷ 5 × 40 กิโลเมตร
สมชายเดินทางโดยรถยนต์จากตำบล ก. ไปยังอำเภอ ข. = 64 กิโลเมตร
ใช้มาตราส่วน 1 ซ.ม. ต่อ 2 ก.ม.
ระยะทางในแผนที่ตำบล ก. ไปยังอำเภอ ข. ในแผนที่จะยาว = 1 ÷ 2 × 64
= 32 เซนติเมตร
3.ให้นักเรียนเขียนเส้นทางทางเมือง ก. ไปยังเมือง ข. โดยใช้มาตราส่วน 1: 100000 โดยที่นักเรียนอยู่ที่เมือง ก. มองเห็นเมือง ข. มีค่า อะซิมุท 135 องศา ระยะทางจากเมือง ก. ห่างจากเมือง ข. เท่ากับ 8 กิโลเมตร
|