หน้าแรก | โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์ ฯ |
|
กลุ่มสาระสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม |
||
สารบัญ |
หน่วยที่ 2 | ปรากฏการณ์ทางภูมิศาสตร์ |
|
บทที่ 7 | ความสัมพันธ์ของโลก ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ | |
การโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ | ||
การโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ทำให้เกิดฤดูกาลต่างๆ นักปราชญ์ในสมัยโบราณ ได้กำหนดให้การโคจรของดวงอาทิตย์บนระนาบเส้นสุริยวิถี ซึ่งโคจรผ่านกลุ่มดาวฤกษ์ต่างๆ ออกเป็น 12 กลุ่ม โดยใช้การโคจรของดวงอาทิตย์ในรอบ 1 ปี เป็นเกณฑ์ในการคำนวณ โดยกำหนดว่า ดวงอาทิตย์โคจร 1 ปี 365 วัน ผ่านกลุ่มดาวฤกษ์ 12 กลุ่ม แต่ละกลุ่มใช้เวลาโคจรประมาณ 1 เดือน และกำหนด 1 กลุ่มดาวฤกษ์ เรียกว่า 1 ราศี รวมทั้งหมดเป็น 12 เดือน 12 ราศี เรียกว่า จักรราศี แต่ละราศีมีอาณาเขตประมาณ 30 องศา | ||
|
||
|
การโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ | ||
สุริยวิถี คือ ระนาบทางเรขาคณิตที่เป็นระนาบวงโคจรของโลก ดาวเคราะห์ส่วนใหญ่ในระบบสุริยะมีระนาบวงโคจรใกล้เคียงกับระนาบนี้ เมื่อมองจากโลก เป็นวงกลมใหญ่บนทรงกลมฟ้า ที่แทนเส้นทางการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ตลอดทั้งปีท่ามกลางดาวฤกษ์ที่เป็นฉากหลัง ระนาบนี้ ทำมุมเอียงกับเส้นศูนย์สูตรฟ้าเป็นมุม ประมาณ 23 องศาครึ่ง ซึ่งเป็นผลจากความเอียงของแกนหมุนของโลก ระนาบวงโคจรของดวงจันทร์เอียงกับระนาบสุริยวิถีเป็นมุมประมาณ 5 องศา |
||
สุริยวิถีกับเส้นศูนย์สูตรฟ้าตัดกันที่จุด 2 จุด ซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน คือ จุดวสันตวิษุวัต (วะ-สัน-ตะ-วิ-ษุ-วัด) (vernal equinox)และจุดศารทวิษุวัต(สาด-ทะ-วิ-สุ-วัด) (autumnal equinox) เมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนมาถึง 2 ตำแหน่งนี้ กลางวันกับกลางคืนจะยาวนานเท่ากันสำหรับผู้สังเกตบนผิวโลก ***(อย่างน้อยก็ในทางทฤษฎี เพราะมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อความยาวนานของกลางวัน-กลางคืน เช่น บรรยากาศโลก) |
||
จุดที่สุริยวิถีอยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรฟ้ามากที่สุดขึ้นไปทางเหนือ เรียกว่า จุดครีษมายัน (คฺรีด-สะ-มา-ยัน) หรือ จุดอุตรายัน (อุด-ตฺรา-ยัน) (Summer Solstice) และลงไปทางใต้เรียกว่า จุดเหมายัน (เห-มา-ยัน) (Winter Solstice) | ||
ถ้าดวงจันทร์ผ่านแนวสุริยวิถีขณะจันทร์เพ็ญหรือจันทร์ดับ จะมีโอกาสเกิดอุปราคาขึ้นได้ วิษุวัต equinox เส้นสุริยวิถี (Ecliptic) และเส้นศูนย์สูตรฟ้า (Celestial Equator) จะตัดกัน 2 จุด และจุดทั้งสองนี้จะอยู่ ตรงข้ามกัน พอดี ถ้าโลกโคจรมาถึงจุดนี้ จากการมองเห็นด้วยตาเปล่า เราจะเห็นดวงอาทิตย์โคจรมาถึงจุดนี้ จะมีปรากฏการณ์พิเศษบนพื้นโลก คือ ในวันนี้ ถ้าเราอยู่ที่เส้นศูนย์สูตรโลก เวลากลางวันจะเท่ากับเวลากลางคืนพอดี |
||
จุดตัดทั้งสองนี้ เรียกว่า จุด วิษุวัต หรือ Equinox จุดวิษุวัตซึ่งดวงอาทิตย์โคจรผ่านแล้ว ดวงอาทิตย์จะปัดไปทางทิศเหนือของเส้นศูนย์สูตรฟ้า เรียกว่า อุตราวิษุวัต vernal equinox เมื่อดวงอาทิตย์โคจรมาถึงจุดนี้ ดวงอาทิตย์จะอยู่ที่เส้นศูนย์ฟ้าพอดี นั่นหมายความว่า ดวงอาทิตย์ขึ้นตรงทิศตะวันออกพอดี ไม่ปัดไปทางเหนือหรือทางใต้ ถ้าเราอยู่ที่เส้นศูนย์สูตรโลก Equator ในเวลาเที่ยงวัน ดวงอาทิตย์จะอยู่ตรงกับ ศีรษะของเราพอดี ซึ่งตรงกับ วันที่ 21 มีนาคม ของทุก ๆ ปี ดวงอาทิตย์มี กรันติ (declination = 0 องศา) ต่อจากวันนี้ไป ดวงอาทิตย์จะค่อย ๆ เคลื่อนไปทางทิศเหนือของเส้นศูนย์สูตรท้องฟ้าวันละเล็กวันละน้อยประมาณ 1 องศาต่อวัน |
||
จุดวิษุวัตเมื่อดวงอาทิตย์โคจรผ่านแล้ว ดวงอาทิตย์จะปัดไปทางทิศใต้ของเส้นศูนย์สูตรฟ้า เรียกว่า ทักษิณาวิษุวัต autumnal equinox เมื่อดวงอาทิตย์โคจรมาถึงจุดนี้ ดวงอาทิตย์จะอยู่ที่เส้นศูนย์สูตรฟ้าพอดี คือ ไม่ปัดไปทางไหนอีก ถ้าเราอยู่ที่เส้นศูนย์สูตรโลก ในเวลาเที่ยงวันของวันนี้ ดวงอาทิตย์จะอยู่ตรงศีรษะของเราพอดี ในวันนี้ดวงอาทิตย์มี declination = 0 องศา คือวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นตรงทิศตะวันออกพอดีและตกตรงทิศตะวันตกพอดี ต่อจากวันนี้ไป | ||
ดวงอาทิตย์จะค่อยๆปัดไปทางทิศใต้ของเส้นศูนย์สูตรท้องฟ้าวันละเล็กวันละน้อย ตำแหน่งของดวงอาทิตย์ในวันนี้ จะตรงกับประมาณวันที่ 22 กันยายนของทุกปี ตามปฏิทินดาราศาสตร์ในระบบนิรายนะ ดวงอาทิตย์จะอยู่ในราศีกันย์ประมาณ 6 องศา 37 ลิปดา กรันติของดวงอาทิตย์ = 0 องศา ในวันนี้ดวงอาทิตย์จะโคจรวันละประมาณ 58 ลิปดา 44 ฟิลิปดา | ||
เส้นสุริยวิถีและเส้นศูนย์สูตรฟ้า มีระนาบต่างกัน โดยทำมุมเอียงประมาณ 23 องศาครึ่ง จุดบนเส้นสุริยวิถีที่อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรฟ้ามีอยู่ 2 จุด เรียกว่า มหากรันติ solstice จุด 2 จุดนี้ จะอยู่ตรงข้ามกันพอดี และต่างก็อยู่ห่างจากจุดวิษุวัต 90 องศาพอดี ถ้าดวงอาทิตย์โคจรมาถึงจุดทั้งสองนี้ เราจะเห็นดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรฟ้ามากที่สุด | ||
จุดบนเส้นสุริยวิถีที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรฟ้าไปทางทิศเหนือมากที่สุด เรียกว่า อุตรายัน summer solstice ณ จุดนี้จะมีปรากฏการณ์พิเศษเกิดขึ้นบนพื้นโลก คือ เวลาในภาคกลางวันจะมากกว่าเวลาในภาคกลางคืนมากที่สุด (เป็นวันที่มีเวลากลางวันนานที่สุด และเวลากลางคืนน้อยที่สุดเฉพาะซีกโลกเหนือ) จะตรงกับวันที่ 21 มิถุนายน ของทุกๆ ปี ดวงอาทิตย์โคจรผ่านจุดอุตรายัน ฤดูกาลในเมืองไทยเราจะเริ่มเข้าฤดูฝน | ||
จุดบนเส้นสุริยวิถีที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรฟ้าไปทางทิศใต้มากที่สุด เรียกว่า ทักษิณายัน winter solstice ณ จุดนี้จะมีปรากฏการณ์เกิดขึ้น คือ เวลาในภาคกลางคืนจะยาวนานมากกว่าในภาคกลางวันมากที่สุด เฉพาะบริเวณประเทศที่ตั้งอยู่ในซีกโลกเหนือ ในทางตรงกันข้าม ประเทศที่ตั้งอยู่ในซีกโกลใต้ เป็นวันที่มีเวลากลางวันนานที่สุด และเวลากลางคืนน้อย ฤดูนี้คนที่อาศัยอยู่ในซีกโลกเหนือจะเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และตกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เรียกว่า "ตะวันอ้อมข้าว" จะตรงกับวันที่ 22 ธันวาคม ของทุก ๆ ปี ดวงอาทิตย์โคจรผ่านจุดทักษิณายัน เป็นวันเริ่มต้นฤดูหนาวของซีกโลกเหนือและเป็นวันเริ่มต้นฤดูร้อนของซีกโลกใต้ | ||
*** การหมุนรอบตัวเองของโลกทำให้เกิดกลางวันและกลางคืน ความจริงแล้วโลกหมุนรอบตัวเองหนึ่งรอบใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง แต่ใช้เวลาประมาณ 23 ชั่วโมง 56 นาที 4 วินาที |
||
อนาเล็มมา analemma เกิดจากแกนเอียงของโลกและวงโคจรที่มีความรีมาก ถ้าแกนโลกไม่เอียงและวงโคจรเป็นวงกลม โลกจะโคจรรอบดวงอาทิตย์ จะมาถึงจุดเดิมในเวลาเดียวกัน หรือที่เก่าเวลาเดิมทุกวัน แต่เพราะแกนหมุนของโลกเอียงไป 23.5 องศา ทางเดินปรากฏของดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าหรือสุริยวิถี ecliptic เทียบกับเส้นศูนย์สูตรท้องฟ้าที่ solstice (โซลสติช) เดือนมิถุนายนหรือ summer solstice (ซัมเมอร์โซลสติช) ดวงอาทิตย์อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร 23.5 องศา และเดือนธันวาคมหรือ winter solstice (วินเทอร์โซลสติช) ดวงอาทิตย์อยู่ใต้เส้นศูนย์สูตรไป 23.5 องศา การเดินทางของดวงอาทิตย์ที่ไปทางเหนือและใต้ของเส้นศูนย์สูตรอธิบายความยาวของรูปแบบอนาเลมมาได้ว่า วงโคจรของโลกมีความรีไม่เป็นวงกลม ระยะทางที่โลกห่างจากดวงอาทิตย์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทั้งปี โลกเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดต้นมกราคมและอยู่ไกลที่สุดต้นกรกฎาคม ดังนั้นคนที่ซีกโลกเหนือ เห็นดวงอาทิตย์ปรากฏเคลื่อนที่ตามสุริยวิถีได้เร็วกว่าค่าเฉลี่ยในฤดูหนาวแต่ช้ากว่าค่าเฉลี่ยในฤดูร้อน เกิดความไม่สมมาตร บ่วงทางใต้ในฤดูหนาวจะกว้างและเป็นบ่วงแคบในฤดูร้อนทางซีกเหนือ ดังแสดงจากภาพ ด้านล่าง เนื่องจากดวงอาทิตย์ไม่ได้เดินข้ามท้องฟ้าด้วยอัตราเร็วคงที่ตลอดทั้งปี มันมาถึงเมอริเดียน(ครึ่งวงกลมสมมุติที่ผ่านทิศเหนือและใต้และจุดเหนือศีรษะ) ในเวลาเที่ยงวันท้องถิ่นไม่ตรงทุกวันคือไม่ตรงกับค่าเฉลี่ย ฤดูใบไม้ร่วงของซีกโลกเหนือ ดวงอาทิตย์ปรากฏเดินเร็ว นั่นคือมันข้ามเมอริเดียนหลายนาทีก่อนถึงเวลาเที่ยงท้องถิ่นค่าเฉลี่ย ในฤดูหนาวดวงอาทิตย์ปรากฏเคลื่อนที่ช้าหรือมาล่าช้ากว่าค่าเฉลี่ย ความแตกต่างระหว่างเวลาเที่ยงวันท้องถิ่นเฉลี่ยและเวลาที่ดวงอาทิตย์ผ่านเมอริเดียนเรียกว่า สมการของเวลา ที่ผู้ใช้นาฬิกาแดดเข้าใจดี |
||
Copyright By : Chalengsak Chuaorrawan Sainampeung School 186 Sukhumwit 22 Sukhumwit RD Klongtoei Klongtoei Thailand e-mail address : chalengsak.ch@hotmail.com Tel; 089-200-7752 mobile |
|